“จุรินทร์” ประสานขอ 6 ล้าน จัด 3 อีเวนต์ ส่งเสริมท่องเที่ยวต่อลมหายใจให้ภูเก็ต

โพสเมื่อ : Sunday, July 26th, 2020 : 5.42 pm

 “จุรินทร์” ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องของบ 6 ล้านบาท จัด 3 อีเวนต์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยต่อลมหายใจให้ภูเก็ต เชื่อจะช่วยดึงคนเข้าภูเก็ต ขณะ เอกชนขอร้องรัฐบาลเหลียวแลบ้าง ตอนนี้ภูเก็ตป่วย อย่าปล่อยให้ตายอยู่ในห้องไอซียู

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 ก.ค.)  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมหารือด้านเศรษฐกิจกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาพื้นฟูด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวสธารณสุข พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการผู้แทนภาคเอกชน

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า  จากสถานการณ์ Covid-19 ทำให้กลุ่มแรงงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่างงานและตกงานเป็นจำนวนมาก โดยจังหวัดภูเก็ตมีแรงงานที่อยู่ในประกันสังคมจำนวน 160,000 คน กลุ่มแรงงานยื่นขอรับสิทธิ์ 62% จาก ประกันสังคมจำนวน 130,000 คน ได้รับเงินเยียวยาไปแล้ว 110,000  คน แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ Covid-19  คลี่คลายแต่กลุ่มแรงงานเหล่านี้ยังคงไม่มีรายได้เนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต

ดังนั้นจึงอยากจะขอให้รัฐบาลดำเนินการขยายเวลาการรับเงินชดเชยจากการว่างงานซึ่งเดิมประกันสังคมให้ 62%เป็นจำนวน 90 วัน  ขอให้รัฐบาลขยายเวลาให้เงินชดเชยเพิ่มจาก 90 วันเป็น 180 วัน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแรงงานระดับรากหญ้าที่ตกงาน

ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ โดยขยายเวลาการชำระหนี้เพิ่มเป็น 3 ปี และ ลดดอกเบี้ยเงินกู้เดิมจาก 7% ให้เหลือ 2% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และขอให้รัฐบาลประสาน ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ผ่อนปรนเงื่อนไขการขอกู้เงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้

สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอยากให้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่ Quarantine รับนักท่องเที่ยวโดยตรงจากต่างประเทศ โดยผลักดันให้เป็นภูเก็ตโมเดล เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยตรง และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ทางภาคเอกชนมีความเห็นร่วมกันว่าภูเก็ตควรที่จะมีการจัดอีเวนต์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้น ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2563

ซึ่งทางภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว  ภายใต้แคมเปญ  “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” ใน 3 กิจกรรมๆ ละ 2 ล้านบาท รวม จำนวน 6 ล้านบาท ประกอบด้วย กิจกรรมที่  1″Phuket Seafood & Gastronomy Festival ” กำหนดจัดงานต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ คือ  1.วันที่ 15-16 สิงหาคม 2563 ณ บริเวณสวนสาธารณะปลายแหลมสะพานหิน  2.วันที่ 22-23 สิงหาคม จัดที่พื้นที่ตำบลราไวย์  3.วันที่ 29-30 สิงหาคม ที่ตำบลป่าตอง  4.วันที่ 5 – 6 กันยายน จัดที่พื้นที่ตำบลกะรน  5.วันที่ 12-13 กันยายน จัดที่บริเวณชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต กิจกรรมที่ 2 การแข่งขันกีฬาโต้คลื่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนกันยายน 2563 และ กิจกรรมที่ 3 ประเพณีถือศีลกินผักในเดือนตุลาคม2563

นายธนูศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจเพื่อสร้างการจ้างงาน ขอให้รัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมทูน่า โดยขอให้รัฐบาลแก้กฎหมายเพื่อรับสิทธิการจับปลาทูน่าในทะเลอันดามันขอเช่าที่ขององค์การสะพานปลาทำตลาดปลา เพื่อจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่

ขณะที่นางเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดอีเวนจ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง 3 อีเวนจ์นั้นขณะนี้ยังไม่มีงบประมาณ ซึ่งจะต้องใช้ทั้งหมด 6 ล้านบาท ขณะนี้มีเงินทั้งต้นจากพาณิชย์ ประมาณ 450,000 บาท อยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาสนับสนุน เพราะในส่วนของภาคเอกชนเองที่ผ่านมาก็ได้มีการบริจาคและสนับสนุนงบประมาณในการต่อสู้กับโรคระบาดไปหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังจะตาย เงินจำนวนนี้เอกชนไม่มีแต่เอกชนพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือในการดำเนินโครงการจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยสนับสนุนงบประมาณ  อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้น ในปี 64 มองว่าจะต้องมีการมีการจัดต่อไป โดยจะจัด 2 เดือนครั้ง ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 12 ล้านบาท

ขณะที่นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ณ วันนี้อยากให้รัฐบาลหันมาเหลียวแลภูเก็ตบ้าง ตอนนี้ภูเก็ตกำลังป่วยหนัก อย่าปล่อยให้ภูเก็ตอยู่ในห้องไอซียูโดยไม่มีการเหลียวแลหรือช่วยเหลือ ในแต่ละปีภูเก็ตส่งรายได้เข้ารัฐมหาศาล แต่เมื่อถึงเวลาที่ภูเก็ตต้องการความช่วยเหลือกลับไม่ได้รับการเหลียวแล

ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมอีกหลายรายได้นำเนอปัญหาของแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการโรงแรม รถแท็กซี่ และอื่นๆ  เพื่อขอให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้กับภูเก็ตให้แยกการแก้ปัญหาของภูเก็ตออกจากภาพรวมของประเทศ เพราะภูเก็ตมีความแตกต่างจากที่อื่น

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับหลายภาคส่วนก็รู่สึกเห็นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวซึ่งทุกจังหวัดที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหมด แต่ภูเก็ตได้รับผลกระทบมากเพราะเป็นแม่เหล็กทางการท่องเที่ยว แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังไม่เข้ามา นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีอยู่ก็เป็นนักท่องเที่ยวตกค้าง การมุ่งเน้นไทยเที่ยวไทยจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะเป็นการช่วยจังหวัดท่องเที่ยวได้

การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เช่นในส่วนของจังหวัดพังงาก็จะมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์เพื่อเดินทางไปพื้นที่ต่าง ๆในการชักชวนให้นักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดพังงา รวมทั้งการเตรียมการให้จังหวัดพังงาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และท่องเที่ยวชุมชน

ส่วนที่จังหวัดภูเก็ตนั้นในการประชุมได้มีการนำเสนอและของบประมาณในการจัดอีเวนต์จำนวน 3 อีเวนน์ด้วยกัน ในช่วง 3-4  เดือนนี้ ประกอบด้วย 1. “Phuket Seafood & Gastronomy Festival  2 การแข่งขันกีฬาโต้คลื่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนกันยายน 2563 และ กิจกรรมที่ 3 ประเพณีถือศีลกินผักในเดือนตุลาคม2563″ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณประมาณ 6 ล้านบาท หวังว่า 3 อีเวนน์นี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาจำนวนมาก แต่ยังขาดเรื่องบประมาณ ซึ่งจะต้องใช้เงินอีเวนต์ละ 2 ล้านบาท ที่ผ่านมามีเงินอยู่แค่ 950,000 บาท

แต่จากการประชุมในวันนี้ และประสานกับหน่องงานที่เกี่ยวของ เช่น ททท. จังหวัด เทศบาล และหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ปรากฏว่าขณะนี้ได้งบประมาณมาครบแล้วจำนวน 6 ล้านบาท ในการจัดทั้ง 3 อีเวนต์ ในช่วงระยะเวลา3 เดือนนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากผลกระทบโควิดไปได้บ้าง ซึ่งจะช่วยต่อลมหายใจให้ภูเก็ตได้อีกระยะหนึ่งจนกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมา

 

ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การขอลดดอกเบี้ย ชะลอการผ่อนชำระ และอื่น ๆ นั้นตนจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดไปนำเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป