“จี้หยอย ” ลงดาบโรงแรมดังหน้าหาดกะหลิม ลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล ส่งนิติกรแจ้งความวันนี้

โพสเมื่อ : Tuesday, May 28th, 2019 : 8.58 am

“จี้หยอย” สั่งลงดาบหลังพบโรงแรมดังหน้าหาดกะหลิม จ.ภูเก็ต ปล่อยน้ำเสียลงทะเล ต่างชาติโพสต์โซเชียล ตรวจพบทำจริง ส่งนิติกรเข้าแจ้งความดำเนินคดีวันนี้ ระบุทุกคนต้องเคารพกฎหมาย

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Bong Marquez” ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ได้โพสต์วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 2.42 นาที ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นภาพน้ำสีดำที่พุ่งผุดขึ้นจากพื้นทรายก่อนไหลไปตามชายหาดและไหลลงสู่ทะเล ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีการส่งต่อและแชร์ออกไปจำนวนมาก

หลังจากทราบเรื่อง นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียให้เทศบาลฯ ลงตรวจสอบพื้นที่บริเวณหน้าหาดกะหลิม หมู่ที่ 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตเพื่อตรวจสอบหาจุดที่มีการปล่อยน้ำเสียลงทะเลตามที่ปรากฏในคลิป ว่า เหตุการณ์น้ำเสียที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำเสียของทางเทศบาลฯ หรือไม่ หรือเกิดจากสาเหตุอะไร จนพบจุดที่มีน้ำเสียไหลลงทะเล

โดย นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุไม่ได้มาจากระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลฯ และระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลฯ ไม่มีการปล่อยน้ำโอเวอร์โฟล (Overflow) ลงตรงจุดนั้น จึงสันนิฐานว่าน่าจะเป็นท่อของเอกชน หรือ ของใครที่วางเฉพาะลงมา จึงให้เจ้าหน้าที่ทดสอบโดยการเอาสีแดงใส่ลงไปในระบบบำบัดน้ำเสียของโรงแรมฝั่งตรงข้าม ซึ่งเมื่อใส่สีแดงลงไปปรากฏว่า น้ำสีแดงได้ไหลออกมาตรงจุดที่มีน้ำเสียไหล จึงได้บทสรุปว่า ท่อน้ำที่มีน้ำเสียออกมาเป็นท่อน้ำเสียของโรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณหน้าหาดกะหลิม .ในเบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่าระบบบำบัดน้ำเสียของโรงแรมชำรุด

ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพ เก็บหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกล่าวหา ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นิติกรของทางเทศบาลเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางโรงแรมที่ปล่อยน้ำเสียในวันนี้ ( 28 พ.ค.62) ขณะเดียวกันได้สั่งการให้โรงแรมเจ้าของพื้นที่ดำเนินการซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสียที่ชำรุดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามแม้จะสั่งการให้เจ้าของพื้นที่ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยแล้วก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย เพื่อให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง ให้เห็นว่าการที่ไม่เคารพกฎหมายนั้นถือเป็นความผิด และเป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคม

นางสาวเฉลิมลักษณ์  กล่าวต่อไปว่าจากการสอบถามจากชาวบ้าน ทราบว่า จุดดังกล่าวจะมีน้ำเสียไหลลงมาเฉลี่ยทุกๆ 15 วัน แต่มีปริมาณไม่มาก ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่มีใครร้องเรียน หรือแจ้งให้ทางเทศบาลทราบ กระทั่งครั้งนี้มีน้ำเสียไหลออกมาจำนวนมากจึงมีการถ่ายคลิปโพสต์ในโซเชียล รวมถึงร้องเรียนไปยังเทศบาลให้ลงมาตรวจสอบ และพบว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียจริง ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลได้ให้โอกาสเจ้าชองสถานประกอบการในพื้นที่ป่าตอง รวมทั้งประชาชนได้รับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียและต่อท่อลงท่อรวมของเทศบาลเพื่อส่งน้ำไปบำบัดก่อนที่จะปล่อยลงคลองมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายๆโรงแรม หลายๆสถานประกอบการ

ส่วนโรงแรม หรือสถานประกอบการหรือชาวบ้านที่ยังไม่ยอมดำเนินการ ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลใช้วิธีเดินสำรวจบริเวณคลองซึ่งมีการต่อท่อเพื่อปล่อยน้ำเสียลงคลอง พบว่าใครหรือสถานประกอบการใดยังปล่อยน้ำเสียลงคลองทางเทศบาลใช้วิธีปิดอุดรูท่อทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงคลองได้ เมื่อไหลไม่ได้ทางเจ้าของท่อก็ต้องไปแจ้งที่เทศบาลเพื่อให้เจ้าหน้าที่เอาที่อุดท่อออกซึ่งทางเทศบาลก็ให้โอกาสในการปรับปรุงแก้ไข ปรากฏว่าการดำเนินการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ