จับใหญ่ยึดของกลางยาเสพติดกว่า 11 ล้านบาท อ้างแค่รับจ้างเดินยาพบเคยติดคุก

โพสเมื่อ : Tuesday, October 22nd, 2019 : 1.16 pm

ภูเก็ตจับคดียาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 ผู้ต้องหา พร้อมยาเสพติดมูลค่า กว่า 11 ล้านบาท พบเคยติดคุกคดีครอบครองมาแล้ว อ้างเป็นแค่ตัวกลางกระจาย ทำแล้วประมาณ 3 ครั้ง ได้รับค่าจ้างสูง ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดในภูเก็ตมุ่งเฝ้าระวังพื้นที่ชั้นใน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 22 ต.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากรปุณยสิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.วัฒนา เพ็งแก้ว ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425, พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผู้กำกับการตำรวจภูธรวิชิต, พ.ต.ท.พิมณรัตน์ ธรมาธิปติ์ รองผู้กำกับการตำรวจชายแดนที่ 425,ร.ต.อ.วิจิตร เชาวลิต รักษาราชการแทนผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต

ซึ่งชุดจับกุมนำโดย ร.ต.อ.อำพล สมอไทย หน.ชปข.ร้อย ตชด. 425 พร้อมพวก ได้รับแจ้งจากสายลับว่า น.ส.หญิง มีพฤติกรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่เกรงกลังกฎหมาย หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับ ร.ต.อ.อำพล สมอไทย หน.ชปข.ร้อย ตชด.425 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิต วางแผนกับสายลับ เพื่อทำการติดต่อล่อซื้อยาเสพติด

โดยติดต่อผ่านทางน.ส.น้อยหน่า เพื่อนสนิทของ น.ส.หญิง จากนั้นเวลาประมาณ 20.00น. ของวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ให้สายลับติดต่อซื้อยาเสพติด จาก น.ส.น้อยหน่า ได้ยาไอซ์ประมาณ 1 กรัม หลังจับกุมได้นำตัวมาสอบสวนขยายผล จนนำไปสู่การจับกุมตัว น.ส.หญิง หรือน.ส.สุทธิชา ถิรวุธ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต และ นายธเนศ ทองตัน อายุ 37 ปี โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง บริเวณ ซ.ระแงง ถ.วิรัชหงษ์หยก หมู่ 4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 76,800 เม็ด ซึ่งจากการสอบถามในเบื้องต้น น.ส.สุทธิชาฯ และ นายธเนศฯ ให้การว่าได้รับยาเสพติดจำนวนดังกล่าวมาจากผู้ชายคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ  -สกุลจริง โดยชายคนดังกล่าว จะเอายาเสพติดมาวางไว้ตามจุดต่างๆ และให้ตนไปรับยาเสพติดตามที่นัดหมาย จากนั้นชายคนดังกล่าวจะสั่งการให้ตนนำยาเสพติดไปส่งยาให้ลูกค้าตามสถานที่ต่าง โดยตนเองจะได้ค่าจ้างในแต่ละครั้งประมาณ 40,000-50,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนยาเสพติดแต่ละล็อตว่ามีมากน้อยแค่ไหน ส่วนครั้งนี้หลังจากรับยาเสพติดมาก็นำมาเก็บไว้ ยังไม่ได้กระจายให้กับลูกค้าแต่อย่างใด และมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน

พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปรานีต รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า สำหรับการจังกุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมรายใหญ่ เนื่องจากมีของกลางจำนวนมาก และน.ส.หญิง ผู้ต้องหาเคยติดคุกในคดีครอบครองยาเสพติดมาก่อน และหลังออกจากคุกกลับมาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก โดยรับจ้างเป็นคนกลางส่งยาเสพติดให้กับเจ้าของยาอีกคนหนึ่งที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ และทำมาแล้ว ประมาณ 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 4 – 5 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตามสำรับการลักลอบนำเข้ายาเสพติดพบว่ามีการลักลอบนำเข้ามาล็อตใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากเมื่อก่อนที่นำเข้ามาในจำนวนไม่มาก ทำให้ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มในการป้องกันและปราบปรามเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน และแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น

ขณะที่นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้มีมูลค่าของกลาง ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ กว่า 11 ล้านบาท ส่วนการแพร่ระบาดและการจับกุมพบว่าปีงบประมาณ 62 ที่ผ่านมามีการจับคุมคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยจับกุมเกี่ยวกับความผิดพืชกระท่อมมากว่า 4,000 คดี ยาบ้า กว่า 1,000 คดี และยาไอซ์ กว่า 1,000 คดี มีพื้นที่สีแดงที่ยังมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดจำนวน 19 หมู่บ้านชุมชนซึ่งจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่องต่อไป