จับแล้วโจรแสบตะเวนงัดกระจกรถยนต์ฉกทรัพย์ทำมา  23  ครั้ง เผยเรียนวิชามาจากคุก

ตำรวจจับแล้ว โจรแสบก่อเหตุตระเวนงัดกระจกรถยนต์ชาวบ้านในหลายพื้นที่ ฉกทรัพย์สินหนีลอยนวล ตร.ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วม สภ.ถลาง จับได้ขณะกำลังจะลงมือก่อเหตุซ้ำ ยอมรับสารภาพทำมาแล้ว 23 ครั้ง ภายในเวลาประมาณ 2 – 3เดือน ศึกษาวิชางัดมาจากเพื่อนร่วมคุก ลงมือแค่ 5 นาที 

วันนี้ ( 8 ม.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อเสริมพันธ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาตร์ ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุงัดกระจกรถยนต์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ตนำโดย พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่สุดสืบสวน สภ.ถลาง จับกุมได้เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทราบชื่อ คือนายกิ่ง หรือเก่ง พลแสน 

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย ไขควงปากแบน  ที่คนร้ายใช้เป็นอุปกรณ์ในการงัดกระจกรถจำนวน 1 อัน หมวกกันน๊อคสีดำ จำนวน 1 ใบ เสื้อเจ็คเก็ตสีดำ และสีขาว จำนวน 2 ตัวกางเกงยีนต์ 1 ตัว รองเท้าแตะ 1 คู่ รถจักรยานยนต์ 2 คัน ธนบัตรไทยจำนวน 21 ฉบับ เงินต่างประเทศจำนวน 36 ฉบับ ตั๋วรับจำนำ กระเป๋าสตางค์ แหวนเพชร 1 วง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง แบตเตอร์รี่สำรอง 2 ก้อน แฟลตไดร์ จำนวน 69 อัน พระรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม 2 องค์ กระเป๋าถือแบบผู้หญิง 1 ใบ กระเป๋าสะพาน 1 ใบ ฮาร์ดดิสค์ จำนวน 3 อัน 

พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ดังกล่าว สืบเนื่องจากในช่วง 2 -3 เดือนนี้ เกิดเหตุคนร้ายตระเวนงัดกระจกรถของชาวบ้านเพื่อขโมยเอาทรัพย์สิน บ่อยครั้งในหลายพื้นที่ ทั้ง ถลาง สาคู เมืองภูเก็ต และพื้นที่อื่น มากว่า 20 ครั้ง โดยล่าสุดเกิดขึ้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้มีการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง จนสืบสวนทราบว่าคนร้ายเป็นใคร จึงได้วางแผนติดตามจับกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมได้ขณะที่กำลังกำลังขับรถเพื่อหาเหยื่อหลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาสอบสวนขยายผลในเบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 23 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก ส่วนหนึ่งนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและซื้อยาเสพติด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆที่ขายไม่ได้ หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจจะนำไปส่งการจับกุม ได้นำไปทิ้ง เช่น โทรศัพท์มือถือ ไอแพด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” 

นอกจากนั้นผู้ต้องหายังยอมรับว่าในการก่อเหตุแต่ละครั้งใช้เพียงไขควงตัวเดียวในการงัดกระจกให้แตก และเข้าไปฉกเอาทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถ โดยใช้เวลาในการลงมือแต่ละครั้งไม่เกิน 5 นาที และวิชางัดรถที่นำมาใช้ก็ศึกษามาจากเพื่อนที่เคยติดคุกด้วยกันที่เรือนจำปากพนัง โดยตัวเองถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์และข้อหาครอบครองยาเสพติด เพิ่งออกจากคุกเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา การก่อเหตุทุกครั้งไม่ได้กำหนดว่าจะก่อเหตุเวลาใด หากพบรถจอดอยู่และเป็นช่วงปลอดคนก็จะลงมือก่อเหตุทันที และทำคนเดียวทุกครั้ง