ขับเก๋งงัดตู้แลกเงิน ฉกเหรียญได้เงิน 8 หมื่น วงจรปิดมัด สืบสวนสภ.ป่าตอง รวบตัว สารภาพสิ้น

ขับเก๋ง งัดตู้รับแลกเปลี่ยนเงิน ขนเหรียญ 1-5-10 บาท ขึ้นรถ 3 รอบ ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ตามรวบ สารภาพ ก่อเหตุจริง นำเหรียญประมาณ 70,000 บาท ฝากธนาคาร ก่อนโอนให้เจ้าหนี้และนำไปลงทุนร้านสักแห่งใหม่ แต่กรรมมีจริง ถูกรวบดำเนินคดี   เมื่อเวลา 00.50 น.วันที่ 9 ธ.ค.นี้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง อีกจำนวนหนึ่งร่วมกันจับกุมนายพรมมา (หรือจอนนี่ แทททู) สีสุรีย์ อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.ไสน้ำเย็น 1 ถ.ไสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 809/2559 ลง 9 ธ.ค.2559 ข้อหา“ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการกระทำผิด” หลังก่อเหตุงัดตู้รับแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ ชื่อ “หจก.ยูนิเวิร์ลพลัส” บริเวณถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตรงข้ามซอยเก็บทรัพย์ ต.ป่าตอง เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจับกุมได้ที่บริเวณบ้านสวนบางโจ อพาร์ทเม้น เลขที่ 131/48 ถ.ศรีสุนทร ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายงัดตู้รับแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ ชื่อ “หจก.ยูนิเวิร์ลพลัส” บริเวณถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตรงข้ามซอยเก็บทรัพย์ ต.ป่าตอง เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบตู้ดังกล่าวถูกรื้อค้นกระจัดกระจายทั่วบริเวณ สอบถามเจ้าของตู้แลกเปลี่ยนเงินดังกล่าว มีเหรียญบาท, เหรียญ 5 บาท และเหรียญ 10 บาท ประมาณ 80,000 บาท หายไป และเห็นเสื้อของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ตัว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายขับรถยนต์เก๋งสีแดงมาจอดริมถนนใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วลงมือเข้าไปงัดประตูและขนเอาเหรียญ 1 บาท เหรียญ 5 บาท เหรียญ 10 บาทไปไว้ในรถรวม 3 รอบ ก่อนคนร้ายขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนสั่งการให้จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี จนทราบว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้คือนายพรหมมา สีสุรีย์ จึงมีการขออนุมัติเพื่อออกมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้มีอาชีพเปิดร้านสักแถวหาดป่าตอง จากนั้นได้เลิกไป และคิดจะหาเงินเพื่อลงทุนเปิดร้านสักแห่งใหม่ ที่ ต.เชิงทะเล จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง หลังได้ทรัพย์สินเป็นเหรียญ 1 เหรียญ5 บาท เหรียญ 10 บาท รวมประมาณ 70,000 บาท ได้นำไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่ง บางส่วนได้จ่ายค่าหนี้สินให้เจ้าหนี้ และบางส่วนนำไปลงทุนเปิดร้านสักแห่งใหม่ ที่ ต.เชิงทะเล สุดท้ายมาถูกรวบเพื่อดำเนินคดีดังกล่าว