ขอแค่ 3 ข้อ ช่วยภูเก็ตพ้นวิกฤต “เงินทุนหมุนเวียน พักชำระหนี้ สร้างภาพลักษณ์”

โพสเมื่อ : Sunday, July 26th, 2020 : 2.00 pm

ชมรมผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 พื้นที่ภูเก็ตยื่นหนังสือ รองนายกรัฐมนตรี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ขอ 3 ข้อ ช่วยภูเก็ตพ้นวิกฤต “เงินทุนหมุนเวียน พักชำระหนี้ สร้างภาพลักษณ์”

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ( 26 ก.ค.)  ชมรมผู้ได้รับผลกระทบโควิด 19 ในพื้นที่ภูเก็ต นำโดย นางทินสุคนธ์ ทองตัน ประธานชมรมผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ในพื้นที่ภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิก ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ รวมตัวยื่นหนังสือ ต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเดินทางมาจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งยื่นหนังสือต่อนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ในจังหวัดภูเก็ต 3 ข้อ

ประกอบด้วย  1. การแก้ไขปัญหาเรื่องของเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้ Soft Loan โดยขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาและบังคับใช้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ Soft Loan เพื่อให้เกิดความเหมาะสมเพื่อให้เงินกู้ถึงมือผู้ที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง เนื่องจากเงื่อนไขปัจจุบันผู้ที่เดือดร้อนและต้องการเงินทุนเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนและจ้างงานไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้ที่รัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ได้ รวมถึงพิจารณาให้ดอกเบี้ยต่ำและระยะปลอดหนี้เงินกู้อย่างน้อย 1 ปี

  1. การพักชำระหนี การประนอมหนี้และการยกเว้นการยึดทรัพย์ ขอให้ผู้มำอำนาจออกมาตรการให้สถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ ลิสซิ่งทั้งที่อยู่ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทยและไม่อยู่พักชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดภูเก็ตเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี และ งดเว้นมาตรการยึดทรัพย์เพื่อให้ผู้เดือดร้อนยังคงมีที่พักอาศัยและเครื่องมือทำมาหากินเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวสามารถดำเนินชีวิต ทำงาน ประกอบอาชีพได้เลย เพื่อสร้างรายได้และมีความสามารถในการจ่ายภาษีตามปกติ

  1. การสร้างภาพลักษณ์ให้จังหวัดภูเก็ตเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ประเด็นนี้ ขอความสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตโปรโมทภาพลักษณ์ของภูเก็ตออกไปยังสังคมภายนอก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่มีความประสงค์จะเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยจากโรคโควิด รวมถึงการโปรโมทสถานที่ สร้างแลนด์มาร์คให้ภูเก็ตมีภาพจดจำที่ดีและวางแผนงานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในภาพรวม 1 ปี

นางทินสุคนธ์ ทองตัน ประธานชมรมผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 พื้นที่ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันคนภูเก็ตได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว เมื่อการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดทำให้ส่งผลกระทบไปในทุกกลุ่มอาชีพ ทั้งแต่ผู้ประกอบการไปจนถึงพนักงาน ร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งปัญหาตรงนี้จังหวัดภูเก็ตรับมาเมๆเป็นระยะเวลาประมาณ 7 เดือนแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลยังไม่ตรงจุด ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับจังหวัดภูเก็ตได้  จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาลเข้ามาดูแลภูเก็ตเป็นพิเศษ เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นเมื่องที่มีความแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภูเก็ตเป็นผลกระทบที่รุนแรงและเกิดขึ้นยาวนานกว่าที่อื่น เมื่อไม่มีคนมาเที่ยวภูเก็ตก็จะลำบากต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี

สำหรับข้อเสนอที่มายื่นผ่านทางท่านรองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เพื่อนำเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เพื่อให้หันมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเรื่องเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน เรื่องของการพักชำระหนี และเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ เพราะมาตรการที่ออกมานั้นคนส่วนใหญ่ยังเข้าไปถึง จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้สามารถเข้าถึงและแก้ไขปัญหาได้จริง ๆ

นางทินสุคนธ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของผู้ประกอบการและคนภูเก็ตเองก็ยังคาดหวังว่าจะให้การท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็วที่สุด แต่มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากทราบกันดีอยู่แล้วว่ายังไม่สามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวภูเก็ตอาจจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีเศษๆ ถึงจะมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา สำหรับตอนนี้มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางเข้ามาบ้าง แต่อยู่ที่ประมาณ 10 %ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาใน 3 เรื่องที่มีการเรียกร้องในครั้งนี้เพราะเป็นความเดือดร้อนของคนภูเก็ตอย่างแต่จริง

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าไปพบปะและสอบถามถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้ที่มารอยื่นหนังสือ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาโปรยปราย พร้อมกับ กล่าวว่า ตนทราบดีว่าขณะนี้ทุกพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความพิเศษเป็นเมืองท่องเที่ยว สำหรับการแก้ไขปัญหาให้กับจังหวัดภูเก็ตนั้นจะมีการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ตเพื่อนำมาประมวลเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย