กลางเมืองภูเก็ต คนร้ายชิงสร้อยทอง พร้อมพระเครื่องหลวงพ่อแช่มรุ่น 1 ของตาวัย 77 ปี  หลังก่อเหตุหนีลอยนวล

โพสเมื่อ : Monday, January 13th, 2020 : 1.00 pm

คนร้าย จี้ชิงทองหนัก 5 บาท  พร้อมพระเครื่องหลวงพ่อแช่มรุ่น 1 เลี่ยมทอง ของคุณตาวัย 77 ปี ขณะ กลับขึ้นรถเก๋งเตรียมขับออกตลาดสดกลางเมืองภูเก็ต ใช้มือล็อคคอ ไขควงแทง ก่อนหลบหนีลอยนวล ทิ้งรองเท้าแตะไว้ดูต่างหน้า

เมื่อเวลา 07.45 น. วันนี้ (13 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ของชาวบ้านไป เหตุเกิดบริเวณหน้าปากซอยนิมิตร 1 ใกล้กับตลาดสดสาธารณะเทศบาลนครภูเก็ต (ตลาดเกษตร) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.ฐปพน แพงพิมพ์โล้ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญชัย เจริญหัตถกิจ สวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าปากซอยดังกล่าวใกล้ตลาดสด ที่มีคนเดินพลุกพล่าน พบ นายสถิตย์ พงศ์ธนาพาณิช อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 561/5 ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียบ กท 335 ภูเก็ต โดยประตูรถด้านคนขับเปิดอ้าอยู่ ที่พื้นถนนใกล้รถคันดังกล่าว พบไขควงด้ามสีฟ้า 1 อัน และ รองเท้าแตะแบบหนีบสีฟ้า 1 ข้างตกอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บที่ฝามือด้านซ้ายเนื่องจากถูกแทงด้วยไขควง

จากการสอบถาม นายสถิตย์ ผู้เสียหาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถยนต์เก๋งคนดังกล่าวมาจอดรถไว้ที่หน้าปากซอยที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เดินไปซื้อของที่ตลาดสดที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่เดินกลับมาถึงรถได้เปิดประตูรถด้านหลังฝั่งซ้าย เพื่อเก็บอาหารที่ซื้อมา จากนั้นได้ปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนขับและขึ้นนั่งเตรียมที่จะออกรถ ทันใดนั้นได้มีชายฉกรรจ์ 1 คน แต่งกายด้วยเสื้อสีดำ และ สวมกางเกงขาสั้นสีดำเปิดประตูฝั่งคนนั่งพร้อมกับเข้ามานั่งที่เบาะ จากนั้นใช้มาล๊อคคอตนเองพร้อมกับบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมหลวงพ่อแช่มรุ่น 1 เลี่ยมทองหนัก 1 บาท ให้ โดยคนร้ายได้พูดว่า “อย่าต่อสู้มีอาวุธ” โดยพูดด้วยภาษาใต้ แต่ตนไม่เชื่อจนมีการต่อสู้กันขึ้น

จากนั้นตนได้เปิดประตูฝั่งคนขับที่ตนนั่งกระชากคนร้ายตกลงมาบนพื้นที่ และได้มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันที่พื้นถนน โดยคนร้ายพยายามกระชากสร้อยคอทองคำ แต่ไม่ขาด แต่ระหว่างนั้นตะขอสร้อยเกิดอ้าออกจากกันเนื่องจากแรงกระชากของคนร้าย ทำให้สร้อยคอและพระตกลงที่พื้นถนน คนร้ายจึงคว้าเอาไว้ไป โดยคนร้ายได้ใช้ไขควงแทงเข้าที่ฝ่ามือด้านซ้ายของตน ก่อนวิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ จำตัวเลขได้เพียง 270 ไม่ทราบหมวดอักษร ที่จอดอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อย

หลังจากนั้นคนร้ายขับหลบหนีไปทางวงเวียนม้าน้ำ โดยได้สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ราคาประมาณ  110,000 แสนบาท พร้อมพระเครื่องหลวงพ่อแช่มรุ่นแรกเลี่ยมทองคำหนัก 1 บาทประเมินค่าไม่ได้ไป และจากการสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า ได้พบเห็นคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่บริเวณตลาดเกษตรหลายรอบก่อนก่อเหตุ เมื่อเห็นผู้เสียหายเดินมาที่รถได้ก่อเหตุดังกล่าเหมือนรอเหยื่อที่จะลงมือ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป