รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าโครงข่ายคมนาคม ชี้ EV Bus เหมาะกับภูเก็ต ลงทุนต่ำ ค่าโดยสารถูก

รัฐมนตรีคมนาคม  “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าโครงการด้านคมนาคมในภูเก็ต ชี้ EV Bus เหมาะกับระบบขนส่งมวลชนจากสนามบิน-ฉลอง วิ่งเลนพิเศษ ลงทุนต่ำ ค่าโดยสารถูก สร้างได้เร็วเปิดใช้ได้ไม่เกินปี 67แต่ถ้าเป็นระบบแทรม ลงทุนสูง ก่อสร้างนาน ค่าโดยสารแพง ต้องเป็นการลงทุนในระยะต่อไป  ส่วนอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง เปิดขายแบบได้กลาง ธ.ค.นี้ พร้อมจัดงบ 50 ล้านแก้ดินสไลด์ถนนทางขึ้นเขาป่าตอง

วันนี้ (2 ธ.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจราชการและติดตามโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ภูเก็ต ทั้งระบบราง โครงข่ายถนน ทางอากาศ และทางน้ำ โดยได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูเก็ต ภาคเอกชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานภูเก็ต

ทั้งนี้ เนื่องจากในพื้นที่ภูเก็ตมีโครงการด้านคมนาคม เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตขณะนี้ ประกอบด้วย โครงการระบบขนส่งมวลชน ระยะที่ 1 (รถไฟฟ้ารางเบา) เส้นทางสนามบินภูเก็ต-ฉลอง และส่วนต่อไปยังท่าฉัตรไชย โครงการทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง (อุโมงค์ป่าตอง) โครงการเส้นทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ โครงการทางลอดบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีย์ท้าวศรีสุทร และโครงการถนนขยายเส้นทางเส้นทางท่าเรือ-เมืองใหม่ (ทางเข้าสนามบินภูเก็ต) ซึ่งบางโครงการอยู่ในขั้นตอนการออกแบบและศึกษารายละเอียด ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม อยู่ในขั้นตอนของ พรบ.ร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นต้น

หลังจากได้ประชุมกับหน่วยงานต่างๆ แล้ว ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบา โครงการก่อสร้างอุโมงค์กระทู้-ป่าตอง และเส้นทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ และลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการซ่อมถนนทรุดตัวทางขึ้นเขาป่าตอง และการตัดถนนเส้นทางใหม่ เป็นเส้นทางสำรอง สายสำนักสงฆ์บางทอง-ศาลเจ้าพ่อเสือ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ว่า การลงมาภูเก็ตในวันนี้ ได้มีการเร่งรัดโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมในภูเก็ตทั้ง 4 มิติ และเครื่องใหญ่ที่สุดที่กระทรวงคมนาคมเข้ามาดำเนินการในภูเก็ต คือ การสร้างระบบขนส่งมวลชนในภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการจราจร ซึ่งเดิมที่นั้นได้กำหนดเป็นรูปแบบของรถไฟฟ้ารางเบา หรือ แทรม แต่เป็นการลงทุนที่สูงมาก ทำให้ต้องเก็บค่าโดยสารที่สูงตามไปด้วย จึงได้นำเสนอการแก้ปัญหาที่เป็นระยะๆ โดยระยะแยกนั้นได้เสนอให้นำรถ EV Bus วิ่งในเลนพิเศษแยกออจากรถยนต์ทั่วไป พร้อมนำระบบ AI เข้ามาใช้ เหมือนที่ดำเนินการอยู่ใน กทม.ใช้เวลาก่อสร้างไม่น่าจะเกินปี 67 ก็สามารถเปิดให้บริการได้ รวมถึงค่าโดยสารไม่แพง หลังจากนั้นก็จะมีการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ และมีจำนวนผู้โดยสารว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพราะเป้าหมายคือต้องการขนคนจำนวนมาก ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ส่วนโครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง นั้น จะมีการเปิดให้ขายแบบกลางเดือน ธ.ค.นี้ หากขบวนการดำเนินการไปตามที่กฎหมายกำหนดและไม่มีข้อร้องเรียนคาดว่าประมาณกลางปี 66 จะได้ผู้รับจ้างและก่อสร้างได้ในปีหน้า ซึ่งโครงการนี้จะไปเชื่อมกับโครงการเส้นทางใหม่เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา และเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานพอสมควร

จึงได้เสนอระบบขนส่งมวลชนให้เป็น EV Bus ไปก่อน เมื่อการก่อสร้างในส่วนของอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง และเส้นทางสายใหม่เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ แล้วเสร็จ ระบบขนส่งจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ตไปจนถึงฉลองนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็น Tram ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงการคมนาคมทางน้ำของภูเก็ต ว่า จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องของมารีน่าและที่ซ่อมเรือ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลและเรือยอชต์ที่จะต้องเร่งลงทุนในส่วนของมารีน่าหรือที่จอดเรือยอชต์ โดยในระยะเร่งด่วนได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่าทำการปรับปรุงท่าเรือเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้การให้บริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงการซ่อมแซมถนนทางขึ้นป่าตอง ว่า จากที่ได้รับรายงานจากนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ว่าการซ่อมแซมมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าหลังวันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะสามารถเปิดการจราจรได้เต็มรูปแบบ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวจะให้ทางกรมทางหลวงจัดสรรงบประมาณ 50 ล้านบาททำการดาดไม่ให้ดินจากภูเขาสไลด์ลงมาทับเส้นทางอีก