ยกระดับ “ฟักข้าว”  สินค้าทางการเกษตร ก้าวสู่ผลิตภัณฑ์ เชิงพาณิชย์ “สบู่ – เซรั่ม” ภายใต้แบรนด์  “ชาลิเย้”

โพสเมื่อ : Monday, November 6th, 2023 : 2.22 pm

ม.ราชภัฎภูเก็ต จับมือ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตร บ้านโตนดินใน “โตนดินฟาร์มเสตย์”  ศึกษาวิจัย ยกระดับ “ฟักข้าว”  ผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตร ก้าวสู่สินค้าเชิงพาณิชย์  ผลิต สบู่ – เซรั่ม ภายใต้ แบรนด์  “ชาลิเย้”  ส่งขายทั่วประเทศ

“ฟักขาว” พืชผล ทางการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาแทบไม่มีราคา ถูกปล่อยทิ้งแบบไร้ค่า แต่ทาง วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านโตนดินใน “โตนดินฟาร์มเสตย์”  ที่ได้รับการสนับสนุนจาก คณะวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต  ในการเข้ามาส่งเสริม ศึกษาวิจัย ภายใต้โครงการ บริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยี  เพื่อยกระดับสินค้าทางการเกษตร และ ต่อยอด ให้เป็นผลิตภัณฑ์ ฟักข้าวเชิงพาณิชย์ ภายใต้แบรนด์ “ชาลิเย้”  ซึ่งประกอบด้วย เซรั่มฟักข้าว และ สบู่ฟักข้าว ที่มีตัวชูโรง คือ สารต้านอนูมูลอิสระ

โดยได้จัดให้มีพิธีส่งมอบ ตัวผลิตภัณฑ์  เซรั่มฟักข้าว สบู่ฟักข้าว ให้กับ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านโตนดินใน “โตนดินฟาร์มเสตย์”  ไปเมื่อวันที่  3 – 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านโตนดินใน “โตนดินฟาร์มเสตย์” อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา  มี น.ส.ภัทรกันยา ชูวงศ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพังงา เป็นประธาน โดย มี ผศ.ดร.ดวงรัตน์ โกยเจริญ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต  ผศ.รังสรรค์ ผลสมัคร คณะบดีคณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นางสาวศุฑภไศรเครือวัล ทองสกุล ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านโตนดินใน เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อม ด้วย ดร.อนิตทยา กังแฮ อาจารย์ประจำคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่จาก ธ.ก.ส. จังหวัดพังงา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม มีนางสาวกานต์จนาภา  สถิรชวาล จาก บริษัทคอสเมด แอนด์ แอมไท-เจจิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการผลิตให้กับทางวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านโตนดินใน เป็นผู้ส่งมอบ

โดย ดร.อนิตทยา กังแฮ. อาจารย์ประจำคณะ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี กล่าวถึงการตัดสินใจ เข้ามาศึกษาวิจัย ให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยี ในการยกระดับ “ฟักข้าว”  ผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตร ก้าวสู่สินค้าเชิงพาณิชย์  ว่า เดิมที่ได้เข้ามาถ่ายทอดความรู้ ในการนำฟักข้าว มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ สบู่ฟักข้าว ให้กับทางวิสหากิจฯ ดังกล่าว มาแล้วซึ่งได้ผลในระดับหนึ่ง โดยทางวิสาหกิจฯ ก็ทำออกมาขาย ซึ่งได้รับการตอบรับดี ขายในราคาก้อนละไม่ถึง 50 บาท จึงคิดว่าฟักข้าว มีคุณสมบัติ ที่น่าสนใจหลายอย่าง  จึงได้นำไปศึกษา สกัด วิเคราะห์ ทดลอง และ จากการศึกษาพบว่า ในตัวเนื้อของ ฟักข้าว มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน ที่สำคัญ เช่น วิตามินซี และ อื่นๆ

หลังจากนั้นจึงได้นำสารตั้งต้น ทั้ง 2 อย่าง ที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัย สำหรับผิวหนัง  มาเป็นสารตั้งต้นในการทำผลิตภัณฑ์ ออกมา 2 ชนิด นั้นก็คือ สบู่ฟักข้าว และ เซรั่มฟักข้าว โดยผลิตออกมาภายใต้ชื่อแบรนด์  “ชาลิเย้” ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้มา จะมีผลทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอย โดยเฉพาะคนที่เป็นฝ้า กระ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะทำให้ผิวหน้าดีขึ้น กระจ่างใส และที่สำคัญสินผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิด ได้รับการผลิต โดย บริษัทคอสเมด แอนด์ แอมไท-เจจิ้ง จำกัด ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ ชาลิเย้ มีคุณสมบัติเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในส่วนของ สบู่ ที่มีการพัฒนาในเรื่องของกลิ่น ซึ่งกลิ่นเป็นกลิ่นเฉพาะ หอมไม่เหมือนใคร  อย่างไรก็ตามขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 ชนิด  ผ่านการรับรอง จาก อย. แล้ว  หลังจากนี้อาจผลิผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เพิ่มขึ้น เช่น ครีมกันแดด

ดร.อนิตทยา กล่าวต่อไปว่า  กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ สบู่ฟักข้าว และ เซรั่มฟักข้าว ที่มีคุณภาพ สามารถยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ภายใต้แบรนด์ “ชาลิเย้” ใช้เวลาในการศึกษาวิเคราะห์ ประมาณ 1 ปี

ขณะที่ นางสาวศุฑภไศรเครือวัล ทองสกุล ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านโตนดินใน  กล่าวถึงที่มาของ ผลิตภัณฑ์ สบู่ฟักข้าว และ เซรั่มฟักข้าว  ภายใต้แบรนด์ “ชาลิเย้” ว่า ในส่วนของโตนดินฟาร์มเสต์  ซึ่งเป็น วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร ได้ปลูกต้นฟักข้าว ไว้เป็นให้เป็นร่มเงา  เมื่อมีผลผลิตออกมาก็ไม่รู้จะเอาไปไหน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าในตัวฟักข้าวมีประโยชน์มาก  จึงได้ขอคำปรึกษายังอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต   ซึ่งทางอาจารย์ ก็ได้มาสอนให้ทำสบู่ จากฝักข้าว ซึ่งช่วงนั้นก็ทำกันแบบๆบ้านๆ ใส่ส่วนผสมเนื้อฝักข้าว และน้ำผึ้ง ลงไป หลังจากทำแล้วก็ลองเอามาขาย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี ทำขายไม่ทัน เพราะฟักข้าวจะให้ผลเพียงปีละครั้งเท่านั้น

หลังจากนั้น ก็ได้ขอความปรึกษา ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยแจ้งความประสงค์ ว่า อยากนำ ฟักข้าวไปทำ สบู่ และ เซรั่ม ทางคณะอาจารย์ ก็ได้เข้ามาส่งเสริมอย่างจริงจัง โดยการถ่ายทอดความรู้ ศึกษาวิจัย เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ หลังจากที่มีการศึกษาวิจัย จนได้คุณสมบัติที่ชัดเจน ก็ได้ร่วมกับทีมวิจัย โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ในการทำผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 ชนิด ออกมา ภายใต้แบรนด์ ชาลิเย้

ซึ่งขณะนี้ก็สามารถที่จะวางขายในช่องทางต่าง ๆได้แล้ว ซึ่งมีทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ “โตนดินฟาร์มเสตย์”  เบอร์โทร  0816912843 โดยในเบื้องต้น ผลิตมาจำนวน 1,000 ขวด และ 1,000 ก้อน เพื่อทดลองตลาด หากกระแสตอบรับดี หลังจากนั้นจะมีการสั่งผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีตัวแทนจำหน่าย ซึ่งก็เป็นชาวบ้าน ที่เคยใช้สบู่มาก่อน ก็จะไปบอกต่อ ทำให้เริ่มมียอดสั่งเข้ามาแล้ว

หลังจากนี้จะมีการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์จากฟักข้าวเพิ่มมาอีกตัว นั้น ก็คือ ครีมกันแดดฟักข้าว เนื่องจากการศึกษาวิจัย พบว่าในฟักข้าวนอกจากจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี แล้ว ยังมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่ป้องกันแสงแดดได้เป็นอย่างดี

 

นางสาวศุฑภไศรเครือวัล  ยังได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลของฟักข้าว เดิมขายได้กิโลกรัมละ 15 บาท  จึงไม่ค่อยมีคนปลูก ทำให้มีผลผลิตน้อย แต่หลังจากที่มีการพัฒนา นำฟักข้าวมาทำเป็นเวชสำอาจ ก็ทำให้ผลของฟักข้าวมีราคาสูงขึ้น ซึ่ง ในส่วนของวิสาหกิจฯ รับซื้อจากชาวบ้านกิโลละ 30 บาท และอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ปลูกฟักข้าวเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อการนำไปใช้ในการผลิต ทั้ง สบู่ และ เซรั่ม ต่อไป