ทุนไทย – จีน มั่นใจ อสังหาฯภูเก็ตดีแน่ ทุ่มหลายพันล้าน เดินหน้า “Sea Heaven Phuket Naithon
โพสเมื่อ : Wednesday, November 9th, 2022 : 11.18 am
ทุนไทย – จีน มั่นใจ อสังหาฯภูเก็ตดีแน่ เดินหน้าพัฒนาโครงการ มูลค่าหลายพันล้าน “Sea Heaven Phuket Naithon บนหาดในทอน รองรับลูกค้าที่กลับมาเที่ยว ผุดคอนโดหรู – พูลวิลล่า ลักชัวรี – COMMERCIAL หลังชะงักมา 2 ปี เพราะโควิดระบาด มั่นภายใน 5 ปี พัฒนาครบทุกโครงการ
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon Mr.Shao Bo ประธานบริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ ซีเฮฟเว่น นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธานบริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด พร้อมด้วย นายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ กรรมการบริหาร บริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด ได้ร่วมกันจัดงาน EXCLUSIV Agent and Investor Night เพื่อประกาศถึงความพร้อมในการกลับมาพัฒนาโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon อีกครั้ง หลังโครงการต้องหยุดชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด เมื่อ 2 ปีผ่านมา โดยมีเอเย่น และ แขกเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธานบริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด พร้อมด้วย นายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ กรรมการบริหาร บริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด กล่าวว่า โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู ตั้งอยู่บริเวณหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บนพื้นที่ 60 ไร่ เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างนักลงทุนชาวไทยจากส่วนกลาง ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเคยอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในส่วนกลางมาก่อน และ นักลงทุนจากประเทศจีน ซึ่งเมื่อต้นปี 2563 ทางบริษัทได้เปิดตัวโครงการไปแล้วครั้งหนึ่ง ในช่วงแรกของการเปิดตัวพบว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถทำยอดขายได้พอสมควร แต่หลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นานก็เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้โครงการได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าก่อสร้าง ตามแผนที่วางไว้ได้ เพราะมีประกาศห้ามทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการก่อสร้างโครงการ จนต้องหยุดพัฒนาโครงการไประยะหนึ่ง
แต่วันนี้ ทางบริษัทซึ่งมีความเชื่อมั่นว่า หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน กลุ่มลูกค้ามีความต้องการสูง ประกอบกับการท่องเที่ยวของภุเก็ตเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทางบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อ โดยการปรับแผนการใช้พื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม เพราะทางโครงการมีพื้นที่จำนวนมาก และมั่นใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการพัฒนาโครงการนั้นขณะนี้ในส่วนของ เฟสแรก คือการพัฒนาอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งอยู่ด้านหน้าของโครงการ นั้นขณะนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 1 ตึก จำนวน 8 ห้อง ส่วนที่เหลือได้ขึ้นโครงสร้างไว้แล้ว ขณะที่ เฟส 2 ซึ่งแยกเป็น เฟส 2.1 เป็นคอนโดมิเนียมหรู จำนวน 124 ยูนิต ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เชื่อว่าสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าได้ประมาณเดือนมีนาคม 66 ส่วนเฟส 2.2 เป็นคอนโดมิเนียมเช่นเดียวกัน มีจำนวน 127 ยูนิต คาดสามารถสร้างได้ปลายปี 66 และ โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าได้ประมาณต้นปี 68 โดยทั้ง 3 เฟส มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท
นายรังสรรค์ ได้ล่าวต่อไปถึงกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนี่ยม ว่า ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดทางโครงการได้ตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าไว้ที่ตลาดจีน และ รัสเซีย แต่หลังจากเกิดโควิดพบว่ากลุ่มลูกค้าชาวจีนยังไม่สามารถกลับมาได้ ทำให้ขณะนี้กลุ่มลูกค้าหลักของโครงการกลายเป็นตลาดรัสเซีย และ พบว่าตลาดรัสเซียกำลังกลับมาเที่ยวภูเก็ตแล้ว นอกจากนั้นตลาดที่หลายคนไม่คาดคิดว่าจะเป็นตลาดที่ดีมากอีกตลาด คือ ตลาดคนไทย พบว่าขณะนี้ตลาดคนไทยจากส่วนกลางสนใจเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเป็นจำนวนมาก
สำหรับยอดขายคอนโดมิเนียมเฟส 2.1 ขณะนี้สามารถขายไปได้แล้วประมาณ 60 – 70% ส่วนโครงการ เฟส 2.2 กำลังอยู่ระหว่างการเปิดตัว โดยการเชิญ เอเย่น ทั้งในภูเก็ต และส่วนกลางมาร่วมงาน เพื่อเป็นการประกาศความพร้อมในการเดินหน้าพัฒนาโครงการให้กลุ่มลูกค้าได้รับรู้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ในส่วนของโครงการนั้นจะรับดูแลห้องให้กับลูกค้าในลักษณะของโรงแรม ซึ่งได้แบรนด์ WYNDHAM เข้ามาบริหาร โดยการันตีผลตอบรับให้กับลูกค้าอยู่ที่ 7 % 5 ปี หลังจากนั้นก็เป็นไปตามข้อตกลงที่วางไว้ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อทุกคนจะต้องส่งมอบห้องให้กับทางโครงการบริหารจัดการ
นายรังสรรค์ กล่าวต่อไป ในระยะถัดไปหลังจากดำเนินโครงการเฟส 2 ทางโครงการยังมีแผนในการพัฒนาที่ดินในพื้นที่อีก โดยพัฒนาเฟสที่ 3.1 เป็นคอนโดมิเนียม Hylife สูง 8 ชั้น จำนวน 2 ตึก มีจำนวน 250 ยูนิต เป็นคอนโดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลขายหาดในทอน นอกจากนั้นยังมีโครงการสร้างพูลวิลล่า อีก 12 ยูนิต ซึ่งเป็น ลักชัวรี พูลวิลล่า ส่วนตัวที่สามารถมองเห็นวิวได้ทุกหลังราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 50 ล้านบาท ที่ขณะนี้กำลังกลายเป็นกระแสเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อพูลลิลล่าเพื่อพักผ่อน ซึ่งคาดว่าในส่วนของเฟส แรกน่าจะเปิดตัวได้ประมาณต้นปี 66 โดยกลุ่มลูกค้าก็ยังเป็นชาวต่างชาติ
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่เป็นอาคาร COMMERCIAL ที่มีทั้งแหล่งชอบปิ้ง ศูนย์ดูแลสุขภาพ การรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วม การแสดงโชว์ต่าง ๆ รวมทั้งอาคารอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตั้งอยู่ตรงกลางของโครงการ มูลค่าโครงการอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท ซึ่งจุดนี้ทางโครงการหวังให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่มาพักบริเวณหาดในทอน และ ใกล้เคียง รวมทั้งเป็นจุดหมายสุดท้ายของกลุ่มนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศ ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่พักบริเวณหาดในทอน เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
นายรังสรรค์ กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาโครงการทั้งหมด บนพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนา 5 ปี ถ้าสถานการณ์ปกติ ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น การพัฒนาโครงการของทางบริษัทดำเนินการต่อไปแน่นอน เพราะเรามั่นใจในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่าภูเก็ต ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกอย่างแน่นอน ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งหมดคาดว่าจะต้องใช้หลายพันล้านบาท
- อาณา ดีเวลอปเมนท์ เปิดตัว “SERRANA” วิลล่าพรีเมี่ยมย่าน “ม่าหนิก” เฟสแรก 20 ยูน...
- กสิกรไทย เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “FX EV Car” ที่ภูเก็ต...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- ZARA เปิดตัวแฟลกชิฟสโตร์คอนเซปต์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกในไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเ...
- “ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้” (TITLE) เครือ “แอสเซทไวส์” ประกาศเปิดอีก 4 โครงการใหม่...
- สุดปัง! “เดอะคิวบ์ อะเมซ ศรีสุนทร” พร้อมส่งมอบให้ลูกค้า ปลายปีนี้ ขายแล้ว กว่า ...
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)