สทนช.เร่งแก้ปัญหาน้ำภูเก็ตทั้งรบบ พร้อมเสนอวิธีประหยัดน้ำ
โพสเมื่อ : Monday, September 4th, 2023 : 4.45 pm
สทนช.เร่งบริหารแก้ปัญหาน้ำ น้ำท่วม น้ำแล้ง และ น้ำเสีย ให้ภูเก็ต พร้อมเสนอวิธีรณรงค์ประหยัดน้ำ ติดมิเตอร์ที่ฟักบัว หวังลดปริมาณใช้น้ำ มั่นใจเอลนีโญไม่กระทบภูเก็ต
วันนี้ (4 กันยายน 2566) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำและการจัดการคุณภาพน้ำ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ พื้นที่โครงการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดิน พื้นที่ตอนบนของป่าชุมชนน้ำตกกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต และ โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ เทศบาลเมืองป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นการบูรณาการการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ต้นน้ำ ที่เชื่อมโยงไปสู่พื้นที่กลางน้ำและปลายน้ำอย่างเป็นระบบ โดยมี ผู้แทนนายอำเภอกะทู้ รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ ตัวแทนชาวบ้าน และ สื่อมวลชน เข้าร่วม
นายสุรสีห์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวและอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ด้วยสภาพพื้นที่และศักยภาพด้านทรัพยากรน้ำ ณ ปัจจุบัน ยังประสบปัญหาทั้งด้านการขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี จากภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฤดูแล้ง มีปริมาณการขาดแคลนน้ำรายปีเฉลี่ยทุกด้านรวมกันอยู่ที่ 25.54 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ ยังมีปัญหาน้ำท่วม เกิดจากคลองส่วนใหญ่น้ำล้นตลิ่งเนื่องจากสภาพทางภูมิประเทศในบางช่วงที่เป็นลักษณะคอขวด ทำให้ระบายน้ำได้น้อยจนเกิดน้ำสะสมล้นตลิ่ง รวมถึงมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ น้ำทะเลหนุนบริเวณชายฝั่ง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อยู่เป็นประจำ
อีกทั้งจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้มีอัตราการขยายเมืองของจังหวัดภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการขยายที่ทำกินสู่พื้นที่ต้นน้ำ ส่งผลให้พื้นที่ป่าไม้ลดลง โดยพบว่า ตำบลศรีสุนทร มีความรุนแรงในการสูญเสียหน้าดินมากที่สุดถึง 2,082 ตัน/ไร่/ปี รองลงมาคือ ตำบลกระทู้ มีความรุนแรงของการสูญเสียหน้าดินเฉลี่ย 2,015 ตัน/ไร่/ปี ที่สำคัญยังพบปัญหาคุณภาพน้ำ น้ำเสียส่วนใหญ่เกิดจากแหล่งชุมชนและสถานบริการ โดยมีปริมาณน้ำเสียเกิดขึ้นรวม 149,917 ลบ.ม./วัน ขณะที่ระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนในจังหวัดภูเก็ต สามารถรองรับน้ำเสียได้แค่เพียง 94,961 ลบ.ม./วัน
ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภูเก็ตบรรลุผลมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ท้ายน้ำ สทนช. ได้ทำโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะ (Area based) เกาะภูเก็ต ตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ที่ครอบคลุมตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี
ทั้งนี้ หากโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้จังหวัดภูเก็ตได้ ประมาณ 60.53 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์จากการจัดการด้านอุทกภัย จำนวน 42,796 ไร่ และสามารถเพิ่มศักยภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ จำนวน 4.96 ล้าน ลบ.ม./ปี
เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตกำลังประสบกับปัญหาการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ตอนบน ดังนั้น การฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศทรัพยากรน้ำในพื้นที่ป่าชุมชนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งในโครงการเบื้องต้นที่วางแผนไว้คือ การสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินพื้นที่ป่าชุมชนบ้านน้ำตกกะทู้ อำเภอกะทู้ โดยจะทำฝายชะลอน้ำเป็นฝายต้นน้ำแบบกล่องเกเบี้ยน เป็นแบบที่พัฒนามาจากฝายผสมผสานแบบหินทิ้งให้เกิดความคงทนแน่นหนา ป้องกันไม่ให้ถูกน้ำพัดพาไปได้ ด้วยการใช้กล่องตาข่ายชุบกาวาไนซ์ขนาดเหมาะสม เมื่อใส่กระสอบดินทรายแล้วมีน้ำหนักมากพอไม่ให้ความแรงของน้ำไหลพัดพาหรือยกไปได้ วางเรียงตามแนวที่จะสร้างฝาย มัดกล่องตาข่ายให้ติดกับเสาปูนอย่างมั่นคงตามความกว้างของฝาย ซึ่งคาดว่าจะช่วยป้องกันและลดการชะล้างพังทลายของดินได้ไม่ต่ำกว่า 291 ไร่
“การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากป่าต้นน้ำช่วยทำหน้าที่รองรับน้ำฝนและช่วยรักษาความสมบูรณ์ให้แหล่งน้ำในธรรมชาติ ทำให้แม่น้ำมีน้ำตลอดทั้งปี เป็นประโยชน์ต่อสัตว์ป่า นอกจากช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน ป้องกันตะกอนดินไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะแล้ว การปรับปรงคุณภาพน้ำก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำในพื้นที่กลางน้ำและปลายน้ำ โดยเฉพาะผลกระทบจากน้ำเสียที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ด้วยการใช้มาตรการบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากชุมชนและสถานประกอบการ มุ่งเน้นการบำบัดน้ำเสียและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ก็ถูกบรรจุไว้ในแผนหลักการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดภูเก็ตด้วย” นายสุรสีห์ กล่าว
ทั้งนี้ โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบที่สามารถใช้ขยายผลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนเองได้ เนื่องจากหาดป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต แต่ละปีมีประชากรและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของมลพิษทางน้ำ เทศบาลเมืองป่าตองได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียที่เกิดขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำเสีย เพื่อเป็นศูนย์รวมในการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม
โดยเริ่มดำเนินการตั้งปี 2532 ความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย 2,250 ลบ.ม./วัน และได้พัฒนาปรับปรุงระบบต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันสามารถรองรับน้ำเสียได้รวม 39,000 ลบ.ม./วัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร พร้อมเสนอแนะวิธีรณรงค์ประหยัดน้ำ ด้วยการติดมิเตอร์ที่ฟักบัว หวังลด
- เปิดแล้ว “ไวทัลไลฟ์ ภูเก็ต” ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ ปลดล็อกความลับสู่อายุที่ยืนยาวอย...
- อบจ.ภูเก็ต ส่งเสริมประเพณีถือศีลกินผัก มอบเงินอุดหนุนให้สมาคมอ๊ามภูเก็ต 1,107,50...
- ข่าวดี พ.ย. นี้ คนภูเก็ตจะได้นั่งรถ EV แทนรถโพถ้อง สีชมพู บางส่วนแล้ว...
- ยึดทำเลทอง โบ๊ทพัฒนา จับมือ Finfinite Asset ผุด “The Petit tycoon” ระดับ Luxur...
- กองช่าง ทต.ราไวย์ แก้ไขปัญหาคูระบายน้ำตัน ทำน้ำท่วมถนน...
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการ Phuket Health Sandbox ปีงบประมาณ 2567...
- October 2024 (3)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)