“รอยัล ลี กรุ๊ป” สร้างความเชื่อมั่นลูกค้า จับมือ “วินด์แฮม” เข้ามาบริหาร คอนโดหรู ใกล้สนามบินภูเก็ต

“รอยัล ลี กรุ๊ป” จับมือ “วินด์แฮม” เข้ามาบริหาร โรงแรม-คอนโดหรู 500 ยูนิต ใกล้สนามบินภูเก็ต สร้างความมั่นใจลูกค้า-นักลงทุน เผยพัฒนา 4 เฟส บนพื้นที่ 80 ไร มูลค่าการลงทุน 12,000 ล้าน เตรียมผุดเฟส 2 สร้างวิลล่าสุดหรู 70 ยูนิต ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นายมิน ลี (Mr. Min Li) กรรมการผู้จัดการใหญ่ เดอะ รอยัลลี เดอะ เทอร์มินอล ภูเก็ต และ นาย ยูโด ชาน (Mr. Eudo Chan) ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ริม วินด์แฮม โฮเทลส์ แอนด์ เอเชีย แปซิฟิก  ได้ลงนามความร่วมมือ ให้ทางวินแดม โฮเทล เข้ามาบริหารโครงการ รอยัล ลี เดอะ เทอมินัล ภูเก็ต โดยมี น.ส.ณัฐชรัตน์ สุวิสุทนิมนตรี กรรมการผู้จัดการ Mr.Long Jianghua ผู้จัดการทั่วไป รอยัล ลี เดอะ เทอมินัล ภูเก็ต และ Mr.Micheal Hofstetter ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการแฟรนไชส์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ รอยัล ลี เดอะ ทอร์มินัล ภูเก็ต

นายมิน ลี ประธานกรรมการ รอยัล ลี เดอะ เทอมินัล ภูเก็ต กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อให้ทางวินแดม โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็น Chain บริหารโรงแรมและคอนโดฯ ที่มีชื่อเสียงเข้ามาบริหารคอนโดมิเนียมหรูภายในโครงการ รอยัล ลี เดอะ เทอมินัล ภูเก็ต  ในเฟส 1 จำนวน 500 กว่าห้อง ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการมา 5-6 ปีแล้ว

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าและนักลงทุนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ได้ลงทุนซื้อห้องคอนโดฯ ของโครงการไปแล้ว และลูกค้าที่กำลังตัดสินใจลงทุนในโครงการดังกล่าว ว่า จะได้รับผลตอบการที่คุ้มค่าจากการลงทุนในโครงการนี้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อห้องของโครงการ ซื้อเพื่อการลงทุน จึงต้องทำให้คอนโดฯ ดังกล่าวเป็นเหมือนโรงแรมที่ให้บริการในระดับ 5 ดาว จึงให้ทางวินแดมเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ซึ่งขณะนี้มีการขายไปแล้ว 30 %  นอกจากนี้ความร่วมมือกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง วินด์แฮม ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่า การจัดการอสังหาริมทรัพย์และการบริการโรงแรมระดับโลกจะมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่หรูหรา และสะดวกสบาย เป็นสถานที่ที่ทุกวันเหมือนวันหยุด เต็มไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา ที่เดอะ เทอร์มินอล ภูเก็ต

นายมิน ลี กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการเดอะ เทอร์มินอล ภูเก็ต เป็นโครงการใหญ่ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 135,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 80 ไร่  ตั้งอยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต และ ภายในโครงการมีที่ขุมน้ำที่เงียบสงบ 25,000 ตารางเมตร จุดเด่นที่ไม่เหมือนโครงการใด ๆ ก็คือ มีถนนส่วนตัวจากโครงการมุ่งตรงสู่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่าง บริเวณโดยรอบโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งตลาดสดของคนทองถิ่น ร้านค้า และร้านอาหาร ผู้พักอาศัยสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำที่สดชื่นในสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพในศูนย์ออกกำลังกายและเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศที่ห้องอาหารของโรงแรม

.

การใช้ชีวิตที่เดอะ เทอร์มินอล ภูเก็ต ผู้พักอาศัยยังจะได้รับส่วนลดสุดพิเศษจากโรงเรียนนานาชาติแมนดารินและโรงเรียนเอเชียคอลเลจ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็ก รวมไปถึงส่วนลดจากบลูแคนยอนคันทรี คลับ ร้านอาหารและสปาต่างๆ ยังช่วยทำให้กิจกรรมสันทนาการสะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว ทางโครงการมี การพัฒนาโครงการออกเป็น 4 เฟส มูลค่าทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก ก่อสร้างเสร็จแล้วทำเป็รโรงแรมและคอนโด จำนวน 500 ห้อง ซึ่งเป็นในส่วนที่มีการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้  ส่วนเฟสที่ 2 เป็นการสร้างวิลล่าหรู ในรูปแบบของพูลวิลล่า ที่ทันสมัย ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งศูนย์สุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในรูปแบบประหยัดพลังงาน ในลักษณะ สมาร์ทคอมวิลล่าคาดว่าจะเริ่มสร้างได้ประมาณเดือนกันยายน 2566  มีทั้งหมด 70 ยูนิต

ส่วนเฟสที่ 3 วางแผนที่จะลงทุนในส่วนของเวลเนสเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความชำนาญเพราะบริษัทในเครือของเรามีโรงพยาบาลอยู่ด้วย ให้บริการทั้งในส่วนของการดูแลสุขภาพ เวชศาสตร์ชะลอวัย บริการเสริมความงาม เป็นต้น จะเริ่มดำเนินการในปีหน้า

และเฟสที่ 4 วางแผนไว้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว 280 ห้อง อพาร์ตเมนต์ และคอมมูนิตีมอลล์ อยู่ด้านหน้าโครงการในพื้นที่ 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับได้มาชอปปิ้ง รับประทานอาหาร เป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นในระยะถัดไป

มร.มิน ลี (Mr. Min Li) กรรมการผู้จัดการใหญ่ เดอะ รอยัล ลี เดอะ เทอร์มินอล ภูเก็ต ดล่าวอีกว่า สำหรับรอยัล ลี ภูเก็ต เปิดมาประมาณ 6 ปีแล้ว เฟสแรกเปิดให้บริการเป็นคอนโด และลูกค้าที่มาที่ภูเก็ตส่วนใหญ่ก็จะซื้อไว้เพื่อการลงทุนมากกว่า เพราะฉะนั้นคอนโดของเราก็จะต้องทำให้มีการบริการในระดับ 5 ดาวเหมือนกับโรงแรม สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาซื้อโครงการในเฟสแรก ซึ่งขายไปแล้วกว่า 30% มีมาจากทั่วโลก ทั้งจากฮ่องกง จีน สิงคโปร์ ไทย รัสเซีย ยุโรป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนฮ่องกง และการที่เราให้ทาง วินด์แฮม มาบริหาร ก็เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่จะมาลงทุนกับโครงการในเครือ รอยัล ลี กรุ๊ป