ยังรื้อ-ย้ายบ้านกลางทะเลไม่ได้ ก่อสร้างซับซ้อนต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ
โพสเมื่อ : Saturday, April 20th, 2019 : 7.43 pm
ยังไม่สำเร็จ รื้อถอนและเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำ เข้าฝั่ง พบการก่อสร้างซับซ้อนต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ หารือทุกฝ่ายวางแนวทางรื้อถอนอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้ารื้อถอนและเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำตามแนวทางของกลุ่ม Seasteading ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (20 เม.ย.62) เรือตรวจการชายฝั่ง ต.991 ภายใต้การสั่งการของ พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ปู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล. เขต 3 นำโดย นาวาเอกภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 นำเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานใน ศรชล.เขต 3 และสื่อมวลชน เข้าร่วมสังเกตการณ์การรื้อถอนและเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำ ในบริเวณจุดก่อสร้างบ้านลอยน้ำ ตามแนวทางของ Sea Steading บริเวณละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก หรือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 14 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 22 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อเป็นพยานว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเป็นการดำเนินการด้วยความสุจริตใจ ไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือทำให้สิ่งก่อสร้างได้รับความเสียหาย แต่ทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ขยายเป็นวงกว้างและยากที่จะแก้ไข
เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว พบเรือหลวงริ้น ซึ่งเดินทางมาจากฐานทัพเรือพังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา และชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 มาเตรียมความพร้อม เพื่อเตรียมการรื้อสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ทั้งนี้ได้นำสื่อมวลชนลงเรือยางไปยังบ้านลอยน้ำดังกล่าว เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริง ก่อนที่จะสรุปแนวทางปฏิบัติ
จากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่สามารถที่จะรื้อถอนได้ เนื่องจากการติดตั้งมีรูปแบบที่แตกต่างจากการก่อสร้างปกติ และต้องใช้ผู้ชำนาญการเฉพาะทางในการดำเนินการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือพลัดตกลงไปในทะเล ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เนื่องจากวัตถุดังกล่าวเป็นของกลางสำคัญในการดำเนินคดีกับชาวต่างชาติและถรรยาคนไทย ที่ทัพเรือภาคที่ 3 ได้แจ้งความดำเนินไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยหลังกลับขึ้นฝั่งจะมีการประชุมร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ กับผู้ที่มาติดตั้งวัตถุลอยน้ำดังกล่าว เพื่อสรุปแนวทางในการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายวัตถุกลับเข้าฝั่งต่อไป
การดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจาก ศรชล.เขต 3 ได้มีการตรวจพบสิ่งก่อสร้างตามแนวทางของกลุ่ม Sea Steading บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาความมั่นคงทางทะเลเจ้าหน้าที่ตำรวจและจังหวัดภูเก็ต ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยการดำเนินการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นบนบกจะเป็นหน้าที่ของจังหวัดภูเก็ตในการบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นในทะเลจะเป็นหน้าที่ของศรชล.ภาค 3 ในการบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2562 พล.ร.ท.สิทธิพรมาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.เขต 3 ได้จัดเรือ ต. 991 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปทำการตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมสี่ Sea Steading พบว่ามีลักษณะเอียงไปข้างหนึ่ง และมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการพังลงมา เนื่องจากขณะนี้มีสภาพคลื่นลมที่เริ่มแรงขึ้น รวมทั้งโซ่ที่ยึดตรึงเริ่มที่จะมีการส่ายไปมา ดังนั้นหากพังลงมาหรือหลุดลอยออกไปจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรือที่อาจทำให้เรือสินค้าหรือเรือลำเลียงน้ำมันที่เดินทางผ่านในพื้นที่เกิดการชนขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ รวมทั้งจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือประมงในพื้นที่
ตามอำนาจหน้าที่ของ ศรชล.เขต 3 ตาม พ.ร.บ. การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562 ในมาตราที่ 3 (1) มาตรา 25 มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 30 ได้ให้อำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้งจัดการ แก้ไขหรือบรรเทาปัญหาเหตุการณ์สาธารณภัยหรือการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบหรืออาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเล
จากเหตุผลและความจำเป็นตามที่กล่าวมาในข้างต้น รวมทั้งอาจทำให้เกิดผลต่อประจักษ์พยานหลักฐานที่มีความจำเป็นต้องมาใช้ประกอบการดำเนินคดีที่ต้องการมีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปนั้น จึงทำให้ ศรชล.ภาค 3 ต้องตัดสินใจดำเนินการนำตัวก่อสร้างดังกล่าวกลับสู่ฝั่งในโอกาสแรก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา ศรชล.ภาค 3 ได้พยายามติดตามผู้ที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของแต่ไม่สามารถติดต่อได้
- “พาร์กัญยิ้ม” มาฟินแล้วอินไปกับเมนูกัญชา รับรองอร่อยนัว...
- ทีเส็บจับมือกรมอนามัย จัดโครงการ “เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ได้มาต...
- โรตารีร่วมฟื้นท่องเที่ยวภูเก็ต นำสมาชิกกว่า 1พัน คน ประชุมคาดเม็ดเงินสะพัด...
- ทำแล้ว ! เทผิวถนนหน้าหาดป่าตอง ตั้งงบไว้สมัย “จี้หยอย” ...
- แผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจอันดามัน-อ่าวไทยด้วยระบบส่งเสริมสุขภาพ เริ่มแล้ว คาด 3 ปี สร้...
- “เหวนรอบเกาะ เลาะรอบหาด” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กับสมาคมผู้ประกอบการนำเท...
- April 2021 (3)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)