“กรณ์” มั่นใจปักธงภูเก็ตได้แน่ เผยเสียงตอบมาแล้ว  ชูนโยบายท่องเที่ยวดี คนภูเก็ตต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี

“กรณ์” ลงพื้นที่ภูเก็ต ควง “เทมส์ – อรทัย” พบประชาชนนำเสนอนโยบาย  มั่นใจปักธงภูเก็ตได้แน่ 2 ว่าผู้สมัครมีศักยภาพ เสียงตอบรับดี ชูโนบาย พัฒนา จ.ภูเก็ต ให้เป็น World class destinationชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตต้องดีระดับเวิลด์คลาส เหมือนการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (16 ก.พ.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ควงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนากล้า ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง คือ นายเทมส์ ไกรทัศน์ และ น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์    พบประชาชนในพื้นที่ ทั้งเขต 1 และ เขจ 2 เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ในการพัฒนา จ.ภูเก็ต ให้เป็น World class destination ข องนักท่องเที่ยวทั่วโลก ณ ที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า ของนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต โดยมีสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุน และประชาชนชาวภูเก็ตในพื้นที่ฉลอง ราไวย์ และใกล้เคียง เข้าร่วมรับฟังนโยบายของพรรคในภาพรวมและจังหวัดภูเก็ต อย่างคึกคัก

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภูเก็ตนั้น พรรคชาติพัฒนากล้าได้ส่งผู้สมัคร ส.ส. ลง 2 เขต คือ เขต 2 และเขต 3 ซึ่งในส่วนของผู้สมัครทั้ง 2 คนที่พรรคได้เปิดตัวไปแล้ว คือ น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ และ นายเทมส์ ไกรทัศน์ เป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพและมีความสามารถ ได้เปิดตัวมาด้วยความมั่นคงเต็มที่ และเดินหน้าทำงานไปกับพรรค ไม่ได้มีการเปิดตัวแล้วเปลี่ยนเหมือนกับหลายๆ พรรค อย่างคุณเทมส์ ไกรทัศน์ นั้น ได้ทำงานกับพรรคมาตลอดระยะเวลา 3 ปี แม้ว่า “คุณอ้อ” อรทัย จะมาร่วมงานกับพรรคที่หลัง แต่ก็เดินหน้าด้วยความมั่งคงเต็มที่ ทำให้พรรคมีความมั่นใจในศักยภาพของผู้สมัครทั้ง 2 คน และเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 เขต ที่ส่งลงสมัครพรรคชาติพัฒนากล้าจะสามารถเอาชนะได้ ส่วนเขต 1 นั้น ทางพรรคจะยังไม่ส่งผู้สมัคร เพราะยังไม่เจอผู้สมัครที่มีมาตรฐานเหมือน 2 คน ที่ได้เปิดตัวไป

“พรรคมั่นใจว่าใน 2 เขตที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง พรรคมีโอกาสที่จะชนะและได้ปักธงในภูเก็ต ตอนนี้เหลือเวลาอีก 2 เดือนกว่าๆ ที่จะถึงวันเลือกตั้ง ยังมีภารกิจอีกเยอะที่ผู้สมัครทั้ง 2 คนจะต้องทำ จากที่ 2 คน เป็นคนหน้าใหม่ทางการเมืองและพรรคเราก็เป็นพรรคใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก มาถึงวันนี้ คนภูเก็ตรู้จักผู้สมัครและพรรคเรามากขึ้น และได้ฝากความหวังไว้กับพรรคชาติพัฒนากล้าแล้ว” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวและว่า

ส่วนนโยบายของพรรคที่จะมาดูแลคนภูเก็ต คงหนีไม่พ้นเรื่องปากท้องของคนภูเก็ต ที่เดือดร้อนมามากจากโควิดระบาด นโยบายที่จะมาช่วยแก้ปัญหาการทำมาหากิน ปากท้อง หนีสิ้น เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับภูเก็ตมากที่สุด ท่องเที่ยวฟื้นตัว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตแน่นอนอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้คนภูเก็ตได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาการจัดสรรงบประมาณหรือประโยชน์ต่างๆ ให้กับเกาะภูเก็ตไม่ได้สะท้อนถึงความสำคัญของภูเก็ตและความต้องการของคนภูเก็ตจริงๆ

ภูเก็ตมีประชากรตามทะเบียนบ้าน 4-5 แสนคน แต่มีคนจากต่างจังหวัดมาทำงานจำนวนมาก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาปีละหลักสิบล้านคน แต่การจัดสรรงบประมาณจัดสรรตามจำนวนประชากรที่อยู่ในทะเบียน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ตนมองว่าที่ผ่านมานักการเมืองภูเก็ตไม่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงมุ่งเน้นนโยบายด้านเศรษฐกิจให้คนภูเก็ตได้พิจารณา และมองว่าถึงเวลาแล้วที่ภูเก็ตจะต้องบริหารงบประมาณในการพัฒนาภูเก็ตเองเพื่อให้สามารถตอบโจทก์ความต้องการของคนภูเก็ตและทันต่อการเติบโตด้านการท่องเที่ยวและเมืองภูเก็ต

ด้าน นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญกับนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะภูเก็ตทางพรรคมองว่าภูเก็ตมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โจทก์ของพรรคชาติพัฒนากล้า คือทำอย่างไรให้ภูเก็ตสามารถหารายได้จากการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่และสามารถบำรุงรักษาเกาะภูเก็ตให้เป็นจุดขายตลอดไปอย่างยั่งยืนในวันข้างหน้า และโจทก์อีกอย่างที่ต้องทำ คือ การทำให้ท่องเที่ยวเฟื่องฟู ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตที่ดีขึ้นตามการท่องเที่ยวที่เติบโต

“ภูเก็ตเป็นเวิลด์คลาส ดิสติเนชั่น ดังนั้นชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตก็ต้องอยู่ในระดับเวิลด์คลาสเช่นกัน ถนนหนทาง และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะต้องเพียงพอทั้งคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้ามา” นายเทมส์ กล่าวและว่า

เพราะพรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อว่า ภูเก็ตยังจะต้องหารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก และมองว่าการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของภูเก็ตนั้น จะต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งภูเก็ตยังสามารถรองรับได้อีกมาก เพิ่มวันพักให้ยาวขึ้น เพิ่มการจ่ายใช้ให้เพิ่มขึ้น หรือจะส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมู เพราะมีอยู่ทั่วทุกจังหวัด ในกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย ด้วยการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสายมูที่เรามีอยู่แล้ว และส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่ม LGBTQ ที่ชื่นชอบในการมาท่องเที่ยวเมืองไทย

“สุดท้ายแล้วเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตจำนวนมากๆ สร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนมหาศาลในแต่ละปี ความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตจะต้องดีตามไปด้วย ถนนหนทางจะต้องดี โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะต้องได้รับการพัฒนา รายได้จากการท่องเที่ยวจะต้องกระจายลงสู่ชุมชน การท่องเที่ยวดี ชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตก็ต้องดีตามไปด้วย” นายเทมส์ กล่าวในที่สุด

ขณะที่ น.ส.อรทัย เก็บทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในภูเก็ต คือ Life style travel หรือการท่องเที่ยวตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งเป็นเมืองที่ยังมีเกษตรกรรม มีวิถีวัฒนธรรมที่หลากหลาย หากผลักดันให้เกิดวิถีชุมชนยั่งยืนอยู่คู่กับนักท่องเที่ยว แทนที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาอยู่ในโรงแรมหรู นอนชายหาด ก็ควรมีโปรแกรมออกมาเที่ยวชุมชน ไปจับปู นั่งแลเล เพื่อให้รายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้อยากจะเน้นย้ำเรื่องสาธารณสุข ที่จะต้องดี มุ่งสู่เวิลด์คลาส คนภูเก็ตก็ต้องได้รับการดูแลในเรื่องสาธารณสุขอย่างดีเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) พรรคชาติพัฒนากล้าจะลงพื้นที่พบปะหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ ในพื้นที่ถลาง ด้วยการจัดกิจกรรม “จูรี in ภูเก็ต” โดยจะมี “จูรี นุ่มแก้ว” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมลงพื้นที่ภูเก็ตไปตามชุมชนต่างๆ พร้อมกับหัวหน้าพรรค และผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 เขต ในพื้นที่บ้านพรุสมภาร บ้านบางโรง หาดสุรินทร์ และจัดเวทีเสวนา “แหลงใต้ให้ฉาว เพื่อปากท้องชาวภูเก็ต” ที่ขุมน้ำบางมะรวน ต.ศรีสุนทร