ไทย นำ “ไบโอแมทริกซ์” มาใช้ตรวจความถูกต้องอัตลักษณ์บุคคล ป้องกันคนร้ายข้ามชาติ

โพสเมื่อ : Thursday, May 9th, 2019 : 3.31 pm

ตำรวจไทยยกระดับตรวจสอบความถูกต้องของบุคคล นำระบบ “ไบโอแมทริกซ์”  มาใช้ ตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ ติดตั้ง 170 จุด ทั่วประเทศ ใช้งบ 2,100 ล้านบาท มั่นใจลดปัญหาคนร้ายข้ามชาติได้อย่างแน่นอน

เมื่อเวลา ( 10.00 น.) พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บังคับบัญชา สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานบริหารโครงการ Biometrics พร้อมด้วย คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ , ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) , ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นทีมที่ปรึกษาโครงการฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือ และ นาย Gunther Mull ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DERMALOG ซึ่งเป็นบริษัทรับติดตั้ง ระบบ Biometrics “ไบโอแมทริกซ์”  ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการติดตั้ง และ ทดสอบระบบงาน Biometrics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต หลังมีการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้าดำเนินการติดตั้งเพื่อทดแทนระบบเดิมที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน

สำหรับระบบ “ไบโอแมทริกซ์” เป็นระบบที่ทำขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาขอบกพร่องในการตรวจสอบของระบบเก่า ในเรื่องของการตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ เช่น คนร้ายที่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าการตรวจสอบทำได้อยากขึ้นอาจจะมีคนเหล่านี้หลุดลอดเข้ามาได้ แต่ระบบ “ไบโอแมทริกซ์”  จะเพิ่มในเรื่องของการตรวจสอบลายนิ้วมือเข้าไปด้วย ซึ่งลายนิ้วมือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย

การดำเนินโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณ จำนวน 2,100 ล้านบาท การติดตั้ง 170 จุด รวม 2,000 เครื่อง ทั่วประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีการติดตั้งที่สนามบินภูเก็ต ท่าเรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ สำนักงานสืบสวน เฉพาะสนามบินภูเก็ตจะมีการติดตั้งจำนวน 76 ตัว ทั้งอาคารผู้โดยสารขาเข้า และขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งมีการดำเนินการมาตั้งแต่เดือด ก.ค.2560

ขณะนี้มีการดำเนินการไปแล้วประมาณ 70 %  ครบกำหนดในการดำเนินงานเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้มีการขยายระยะเวลาอีก 1 เดือน โดยจะครบกำหนดและเริ่มใช้งานได้ครบ 100 % ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ยังไม่เสร็จก็จะต้องเสียค่าปรับวันละ กว่า 4 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 ระบบ จะสามารถพร้อมใช้งานได้เต็มรูปแบบทั่วประเทศ ณ จุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั่วประเทศ ด่านบก ด่านทางน้ำ ท่าอากาศยาน เพื่อเป็นการคัดกรองบุคคล ป้องกันการใช้หนังสือเดินทางปลอม การเปลี่ยนชื่อ และในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งถือเป็นก้าวแรก ในการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย ให้เป็นมาตรฐานสากลกับประเทศอื่นทั่วโลก โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 5 ในอาเซียนที่นำระบบ Biometrics มาใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน