“ไอ้เบียร์ ลาย” คนร้ายจับหญิงสูงวัยเป็นตัวประกัน ยอมมอบตัวแล้ว หลังยื้อนานหลายชั่วโมง

“ไอ้เบียร์ ลาย” คนร้ายจับหญิงสูงวัยเจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่ – ซ่อมรถเป็นตัวประกัน ยอมวางปืนมอบตัวแล้ว หลังยื้อนานหลายชั่วโมง

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น.วันนี้ (14 ต.ค. ) ชุดสืบสวน สภ.ถลาง ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะมาถึงเส้นทางบ้านบางโจ ได้พบกับนายประสิทธิ์ หรือ เบียร์ลาย เทพทอง ซึ่งมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ กำลังจอดรถจักรยานยนต์เพื่อจะซื้อของที่ร้าน เอ อะไหล่ เลขที่ 117/17 ม.4 บ้านบางโจ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจสอบ เมื่อนาย ประสิทธิ์ฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ชักอาวุธปืนชี้เข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พุ่งไปจับตัวคนที่อยู่ภายในร้านเป็นตัวประกัน ทราบชื่อคือนาง สุธาสินี  (ป้านาง) ทุมมากรณ์ ภรรยาเข้าของร้าน ซึ่งยืนอยู่ใกล้ตัวนาย ประสิทธิ์ฯ ขณะนั้นพอดี และใช้อาวุธปืนจ่อบริเวณศีรษะของนางสุธาสินีฯ ตลอดเวลา พร้อมตะโกนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปจากพื้นที่ พร้อมลากตัวประกันไปหลังโต๊ะ

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ท.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งแม่ และพี่สาวของคนร้าย ร่วมเจรจา ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนกระทั้งล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. คนร้ายจึงยอมปล่อยตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัย

โดยนายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร พร้อมด้วย นายเฉลิมพล เกิดทรัพย์ กำนันตำบลศรีสุนทร ซึ่งเป็นคนที่เข้าไปเจรจากับคนร้ายจนยอมวางปืนและปล่อยตัวประกัน กล่าวว่า จากการพูดคุยกับคนร้ายได้ยื่นข้อเสนอถ้าจะให้ปล่อยตัวประกันจะต้องให้ไปพบเพื่อนก่อน แต่จะขอนำอาวุธปืนไปด้วย ซึ่งตนก็ได้เกลี่ยกล่อมว่าถ้านำอาวุธปืนออกไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่ยอม แต่ถ้าจะไปพบเพื่อนตนพร้อมที่จะพาไป ซึ่งคนร้ายยินยอม และปล่อยตัวประกันดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าตัวประกันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ขณะที่ นาง สุธาสินี (ป้านาง) ทุมมากรณ์ ซึ่งถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน ได้เล่านาทีระทึก ขณะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้หัว ว่า ในช่วงเกิดเหตุมีคนเข้ามาซื้อของที่ร้าน ขณะนั้นมีผู้ชาย 2 คนเข้ามาและชี้มือไปที่คนร้ายคือนายเบียร์ เมื่อเห็นดังนั้นนายเบียร์ก็ได้ชักอาวุธปืนชี้ไปทางชายทั้ง 2 คน ก่อนที่จะดึงตนเข้าหาตัวและใช้ปืนจี้บังคับอยู่ตลอดเวลา โดยช่วงเกิดเหตุในร้านอยู่ด้วยกัน 3 คน คือตน ลูกน้อง และ หลาน ส่วนสามีอยู่บนบ้าน ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากเหมือนจะเป็นลมแต่ใจต้องสู้ คิดอยู่ตลอดเวลาว่าต้องปลอดภัย พระคุ้มครอง และ พยายามที่จะพูดเกลี่ยกล่อมคนร้ายตลอดเวลาให้วางปืนโดยบอกกับคนร้ายว่าทุกอย่างสามารถคุยกันได้ ขอให้ใจเย็น เหตุเกิดตั้งแต่ 17.00 น. และตลอดเวลาที่อยู่กับคนร้ายเขาก็จะบอกตลอดว่าจะไม่ทำอะไร ถ้าบอกได้ตอนนี้ก็อยากจะบอกให้เขาสู้ และทำความดี