รอง.ผบ.ตร.จี้คดีนอมินี สอบถึงใครเอาผิดทุกคน สั่งปิด6 บริษัทเครือข่ายทรานลี่

โพสเมื่อ : Tuesday, July 5th, 2016 : 4.56 pm

รอง.ผบ.ตร. ตามคดีนอมินิที่ภูเก็ต ยันจะต้องสอบสวนเอาผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย พร้อมระบุ มีการสั่งปิดบริษัทในเครือ ทรานลี่ แล้ว 6 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งเส้นทางการเงิน

IMG_4084

วันนี้ ( 5 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค)  กล่าวภายหลัง ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเครือข่ายนอมินีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมา ติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี เครือขาย บริษัท ทรานลี่ เทรเวล จำกัด ซึ่ง มีนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม หรือนาย ไอ่สาม เสียงลี นาย วีระชัยคำไผ่ประพันธ์กุล เป็นผู้บริหารบริษัท ทรานลี่ เทรเวล จำกัด ซึ่งถูกศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับไปแล้วทั้ง 2 คน  ในความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าว แต่อ้างว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยให้เจ้าหน้าที่ออกบัตรประชาชนและนำไปจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจนำเที่ยว”  โดยในส่วนของนาย กฤชกร รุ่งมงคลนาม ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการประกันตัว ส่วน นาย วีระชัยคำไผ่ประพันธ์กุล กำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี

IMG_4129

สำหรับคดีนี้ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด หากมีการสืบสวนเกี่ยวข้องถึงใครจะต้องดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอดีตนักการเมือง หรือคนมีสี ก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และ ว่า กันไปตามกฎหมาย ไม่มีการไว้หน้าใครแน่นอน นอกจากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการจดทะเบียนของบริษัทที่มีการปกปิดรายได้ที่จ่ายให้รัฐ ว่า เงินที่ได้จากการทำธุรกิจหายไปไหน ซึ่งได้มอบหมายให้ทางกองปราบดูแลว่าเงินหายออกจากประเทศไปได้อย่างไร

IMG_4195

ขณะที่การตรวจสอบบริษัทที่เป็นเครือข่ายของบริษัท ทรานลี่ เทรเวล จำกัด หรือบริษัทไทลี่ ที่มีอยู่ทั้งหมด 17 บริษัท ขณะนี้ในส่วนของสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ภาคใต้เขต ได้ทำการตรวจสอบและสั่งปิดกิจการไปแล้วจำนวน 6 บริษัท ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเที่ยว ที่พัก รถ ร้านอาหาร มัคคุเทศก์ ขายสินค้า ธุรกิจสปา หากตรวจพบว่ามีกิจการใดยังลงเปิดให้บริการถือว่าเป็นการทำความผิดซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปดำเนินคดี ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตามการตรวจสอบบริษัทที่มีนอมินีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นจะมีการดำเนินการต่อเนื่อง เพราะภูเก็ตเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ที่มีนอมินีเข้าไปเกี่ยวข้องหลายบริษัท โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

IMG_4183

พล.ต.อ.ศรีวราห์  กล่าวต่อไปว่า โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้บูรณาการปิดล้อมตรวจค้นทรัพย์สินของเครือข่ายบริษัทดังกล่าวไปแล้วหลายรายการ ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์จำนวน 117 คัน เรือ 35 ลำ ที่ดินในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 3 แปลง ผลการดำเนินการพบว่าจากการตรวจสอบที่ดิน บริษัท บลูเบย์ รีสอร์ท จำกัด จ.พังงา พบว่ามีการก่อสร้างห้องพักเกินจำนวนที่ขออนุญาต จาก 76 ห้อง เป็น 330 ห้อง พบไกด์เถื่อนจำนวน 21 คน ในส่วนของเรือมีใช้ ติดตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต 4 ลำ ขณะที่รถทัวร์พบพนักงานขับรถแต่งกายไม่เรียบร้อยอุปกรณีไม่ครบจำนวน 2 คัน สำหรับทรัพย์สินที่เกี่ยวของกับบริษัทดังกล่าวเชื่อว่ามีจำนวนหลายร้อยล้านบาท

IMG_4189

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหานั้น ยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มแต่อย่างใด และเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องถ้าตรวจพบว่ามีใครเกี่ยวข้องเข้ามาเป็นนอมินิถือหุ้นไม่เกิน 50 % ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ( 5 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจสอบจับกุมบริษัทที่เปิดให้บริการโชว์งู บริเวณซอยนากก หมู่ 5  ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่ายังมีการจัดแสดงโชว์งูให้นักท่องเที่ยวชมอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีงูจำนวนมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดงูเหลือมได้จำนวน 7 ตัว เท่านั้น เนื่องจากเป็นงูที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน