มูลนิธิบ้านเด็กตะวันฉายเตรียมจัดงานครบรอบ 10 ปี หาทุนช่วยเด็กด้อยโอกาส

โพสเมื่อ : Friday, June 2nd, 2017 : 2.18 pm

 

มูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต เตรียมจัดงานครบรอบปีที่ 10 เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกิจกรรมออกบูธระดมทุนต่อยอดการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ดร.ศุภลักษณ์ กาญจนเมธากุล ประธานมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย และคณะ ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภูเก็ต ถึงการจัดงานครบรอบ 10 ปี เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินผลงานตลอดจนอุปสรรคในการดำเนินงานและการจัดงานประจำปี ฉลองวันครบรอบปีที่ 10 ของมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย

ดร.ศุภลักษณ์ กาญจนเมธากุล ประธานมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการดำเนินการก่อตั้งมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย ว่า สืบเนื่องจากภัยพิบัติสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สโมสรไลอ้อนส์ต่างๆ ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัยในจังหวัดภูเก็ต และพังงา โดยสโมสรไลอ้อนส์ภูเก็ตอันดามันซี ได้ร่วมมือจัดหาทุนเพื่อสร้างหมู่บ้านสำหรับเด็กกำพร้าเนื่องจากภัยพิบัติ โครงการนี้ได้เริ่มอย่างจริงจังจากสโมสรไลอ้อนส์ภูเก็ตอันดามันซี สภากาชาดฝรั่งเศส และสมาคมพิทักษ์เด็กภูเก็ต ซึ่งในขณะนั้น มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือและปกป้องเด็กมานานกว่า 10 ปี ได้ดำเนินการก่อตั้งมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉายขึ้น โดยมีกรรมการมูลนิธิประกอบด้วยสมาคมพิทักษ์เด็กภูเก็ต 4 คน และจากสโมสรไลอ้อนส์ภูเก็ตอันดามันซี 4 คน รวมเป็น 8 คน
ณ วันที่ 17 ส.ค.2549 มูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย จึงได้เริ่มก่อตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสถานสงเคราะห์เด็ก โดยดำเนินการให้เป็นที่พักพิง แก่เด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน เด็กด้อยโอกาส หรือเด็กสภาวะยากลำบาก เด็กครอบครัวแตกแยก หรือผลกระทบจากภัยพิบัติ เด็กถูกทารุณ ถูกทอดทิ้ง และเด็กที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ และได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชนเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่สดใสด้วยการดูแลตามแบบฉบับแห่งครอบครัวไทย สถานสงเคราะห์เด็กหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2550 ปัจจุบันมีเด็กในการสงเคราะห์จำนวน 95 คน และเด็กก่อนวัยเข้าเรียนจากชุมชนยากจนใกล้เคียง จำนวน 20 คน

“ใน 10 ปี มีเด็กที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ออกไปจากมูลนิธิ มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 300 คน เนื่องจากว่ามูลนิธิฯ เราเกิดมาจากกรณีพิบัติภัย เป้าหมายของเราในขณะนั้น คือการดูแลเด็กที่ประสบภัย ที่สูญเสียครอบครัว ญาติพี่น้อง ส่วนใหญ่ก็ได้รับการช่วยเหลือไปบ้างแล้ว เราก็เลยขยายการช่วยเหลือให้กับเด็กด้อยโอกาสอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นเด็กด้อยโอกาสเนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ เกิดจากครอบครัวที่พ่อแม่ผลักภาระ เป็นเด็กที่ครอบครัวไม่ต้องการ หรือไม่ก็กลุ่มเสี่ยง ซึ่งอาจจะเป็นเด็กที่ครอบครัวยังต้องการ แต่ครอบครัวนั้นอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เด็กอาจจะถูกยั่วยุไปในทางที่ไม่ดีได้” ดร.ศุภลักษณ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ดร.ศุภลักษณ์ ยังได้กล่าวถึงผลงานและการดำเนินงานในรอบ 10 ปี ด้วยว่า การดำเนินงานของหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย อยู่ภายใต้การควบคุมของส่วนราชการคือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้รับการประเมินผลในระดับดีเยี่ยมและเป็นอันดับต้นๆ เสมอมาเป็นเวลาติดต่อกันทุกปี โดยเฉพาะในช่วงสามปีสุดท้ายที่ผ่านมาหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย ได้รับคะแนนสูงสุดในการประเมินดังกล่าว
มูลนิธิฯ ได้ช่วยแบ่งเยาภาระของรัฐบาลในการสงเคราะห์เด็กที่จำเป็นจะต้องได้รับการสงเคราะห์และคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ตามอัตราเฉลี่ยแล้วมูลนิธิฯ ได้รับเด็กสงเคราะห์เป็นจำนวน 120 คนต่อปี รวมถึงเด็กเล็กจากชุมชนที่ได้รับการดูแลในชั้นเรียนเด็กเล็ก


มูลนิธิฯ ได้รับสงเคราะห์เด็กที่ส่งมาโดยตรงจากหน่วยงานของรัฐคือบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 10-15 คนต่อปี และมูลนิธิฯ ยังได้รับเด็กเพื่อการสงเคราะห์ต่อจากองค์กรเอกชนอื่นๆ เช่น สมาคมพิทักษ์เด็ก บ้านพักเด็กฮอนแลนด์ บ้านลุงพิทักษ์และอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 8-12 คนต่อปี
มูลนิธิฯ ได้สงเคราะห์เด็กและคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กเหล่านั้น รวมถึงช่วยเหลือในเรื่องปัญหาด้านสุขภาพกายและจิต ความบกพร่องทางอารมณ์และสังคม ให้ความรู้ด้านกฎหมาย สิทธิเด็ก เป็นต้น เช่น ปัญหาช่องปากและฟันของเด็กได้รับการดูแลจนได้รับประกาศเป็นเขตปลอดฟันผุเมื่อปลายปี 2559 จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มีเด็กจำนวนประมาณ 9% ที่ได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางสม่ำเสมอ เป็นต้น จัดอบรมด้านจริยธรรม ทัศนะศึกษา กิจกรรมต่างๆ เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ แก่เด็กและบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เด็กทุกคนจะได้รับการตรวจสอบถึงครอบครัวที่มีอยู่โดยมูลนิธิฯ มีความประสงค์ที่จะส่งเด็กกลับสู่ครอบครัวของตนเองเมื่อสภาวะของครอบครัวพร้อมที่จะดูแลเด็กได้ด้วยตัวเอง ในแต่ละปี สามารถคืนเด็กสู่ครอบครัวได้ โดยเฉลี่ยประมาณ 5% ของเด็กทั้งหมด เมื่อมีเด็กในการสงเคราะห์ ที่มีอายุถึง 18 ปี ทางมูลนิธิฯ ได้ดูแลให้เด็กเหล่านี้ให้สามารถออกไปดำรงชีวิตได้ด้วยตัวเอง และถ้าเด็กประสงค์จะศึกษาต่อมูลนิธิฯ ก็ได้จัดหาทุน
หมู่บ้านเด็กตะวันฉาย มาถึงจุดนี้ได้เราต้องดูแลตัวเอง ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรามีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาทต่อเดือน หรือไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาทต่อปี ทำไมต้องเยอะ เนื่องจากว่า นอกจากเรื่องการศึกษาที่เราต้องให้กับเขาแล้ว เด็กยังต้องมีเงินติดกระเป๋าไปโรงเรียน ในการทำกิจกรรม รับประทานอาหาร และในการใช้จ่ายส่วนหนึ่งเพื่อชีวิตของเขาด้วย ไม่ว่าทางหมู่บ้านจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะประหยัดเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราได้มา เพื่อที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายที่เราพยายามจะลดให้มากที่สุดก็ยังไม่สามารถลดได้อย่างที่เราต้องการ แต่ถ้าเราได้รับการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เราได้อยู่ต่อไป เพื่อที่จะได้ให้การช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสเหล่านั้น ซึ่งบังเอิญหลั่งไหลเข้ามาในเกาะภูเก็ตของเรา
อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 มิ.ย.2560 ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.ทางมูลนิธิหมู่บ้านเด็กตะวันฉายจะมีการจัดกิจกรรม เป็นลักษณะเหมือนการออกร้านขายของ ซึ่งตอนนี้มีร้านขายของที่แจ้งความจำนง ทั้ง อาหาร เครื่องดื่ม สิ่งของต่าง ๆที่จะมาจำหน่ายในงาน มีจำนวน 55 บูท และเรายังมีพื้นที่ที่จะรองรับจำนวนบูทได้อีก 20 บูท จึงขอเชิญชวนผู้สนใจมาร่วมกิจกรรมกับทางมูลนิธิฯ เพื่อหารายได้ส่วนหนึ่งเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานของหมู่บ้านเด็กตะวันฉาย ซึ่งเป็นองค์กรที่สร้างขึ้นมาโดยไม่ได้หวังผลกำไร สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-7661-4116,08-5884 -7787 ทั้งนี้ท่านสามารถของโอนเงินบริจาคเข้าบัญชีเลขที่ 102 -2-00125-4 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชีมูลนิธิหมู่บ้านตะวันฉาย โดยแจ้งการโอน ทางโทรศัพท์หรือส่งสลิปการโอนทางโทรสารที่หมายเลข 0-7661-4116 ดร.ศุภลักษณ์ กล่าวในที่สุด