“เจ้ากร” เจ้าของเรือถูกเพลิงเผาวอด 5 ลำ ไม่เชื่อเกิดจากอุบัติเหตุแต่ต้องรอผลพิสูจน์

“เจ้ากร” เจ้าของเรือนิกรมารีน ที่ถูกเพลิงเผาวอด5 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1ลำ ระบุไม่เชื่อว่าเหตุเพลิงไหม้จะเกิดจากอุบัติเหตุ เผยมีหลายจุดสังเกตที่ทำให้เกิดข้อสงสัย แต่สุดท้ายยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ ขณะที่เรืออีก 3ลำที่สั่งต่อไว้ ลำแรกได้แน่ 10 พ.ค.นี้

จากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือของบริษัทนิกร มารี จำกัด เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เรือสปีดโบ๊ท ขนาดใหญ่ เสียหายทั้งหมด 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อยจำนวน 1 ลำ มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 25ล้านบาท และจากเหตุการณ์ดังกล่าวในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลังฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการ ประมาณ 1 เดือน ถึงจะทราบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพิสิษฐ์ ปภากิจยศพัฒน์ หรือเจ้ากร เจ้าของบริษัท นิกรมารีน จำกัด กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือจนได้รับความเสียหายทั้งหมด 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อยจำนวน 1 ลำ ซึ่งเรือทั้งหมดตนได้ลากไปไว้ที่ บริษัท และคานเรือ แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรกับเรือทั้งหมด เพราะจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ การวางเพลิงหรือสาเหตุอื่นใด ซึ่งจากปัญหาหาดังกล่าวทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้เลย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน

นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าความคิดเห็นส่วนตัวของตนขอบอกว่าตนไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเกิดจากอุบัติเหตุ เพราะมีจุดที่น่าสงสัยอยู่หลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคำให้การของคนเฝ้าเรือ เรื่องของไฟสปอร์ตไลน์ที่ปกติจะติดอยู่ตลอดทุกวัน แต่คืนที่เกิดเหตุพบว่าไฟสปอร์ตไลน์ดับโดยไม่ทราบสาเหตุ และเมื่อเปิดไฟสปอร์ตไลน์หลังจากวันที่เกิดเหตุก็พบว่าไฟติดปกติ ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่น้ำลงพอดี และกรณีของคนเฝ้าเรือซึ่งปกติทุกคืนจะมีคนเฝ้าเรือ 2คน แต่คืนที่เกิดเหตุมีคนเฝ้าเรือเพียงแค่คนเดียว จุดเกิดเหตุเป็นเรือลำที่จอดอยู่ตรงกลางของเรือที่จอดอยู่ประมาณ 10 ลำ นอกจากนั้นช่วงก่อนเกิดเหตุไม่นานพบมีคนเดินใกล้กับบริเวณจอดเรือ

“เรื่องนี้ตนจึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปผลการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เรือที่แท้จริง ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ส่วนคนเฝ้าเรือขณะนี้เท่าที่ทราบข้อมูลจากทางตำรวจพบว่ามีการแจ้งข้อหาในเบื้องต้นไปแล้วโดยแจ้งข้อหาประมาททำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย “

นายนายพิสิษฐ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการสั่งเรือลำใหม่เข้ามาทดแทนเรือที่ถูกเพลิงไหม้ ว่า ขณะนี้ได้สั่งเรือไปแล้ว 3 ลำ โดยเรือทั้ง 3 ลำจะทยอยส่งเข้ามา ลำแรกจะเสร็จประมาณ วันที่ 10 พ.ค.นี้ ส่วนลำที่ 2 คาดว่าจะเสร็จประมาณ วันที่ 20 พ.ค. และ ลำที่ 3 ประมาณ วันที่ 25 มิ.ย. นี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเรือจะถูกเพลิงไหม้ไปจำนวน 6 ลำ แต่ทางบริษัทก็ยังพร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีเรือของพรรคพวกมาช่วยกันรับนักท่องเที่ยวอีก 8 ลำ จึงไม่มีปัญหาเรื่องของการให้บริการอย่างแน่นอน