2 ตายาย อาศัยโกดังร้าง อ้างเป็นของ พล.ต.ต. ขณะคนถูกอ้างยันไม่ใช่เจ้าของ

โลกโซเชียลแชร์ 2 ตายาย อาศัยโกดังร้าง อ้างเป็นของ  พล.ต.ต. แต่ไร้การเหลียวแล ขณะที่ผู้อำนวยการสาขาพรรคประชาชานิยมภาคใต้ ซึ่งถูกอ้างชื่อ โร่แจง ยันไม่ใช่เจ้าของ แต่พร้อมช่วยเหลือ

พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง หัวหน้าสาขาภาคใต้พรรคประชานิยม พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ เพื่อไปพบกับนายซอและ ขวัญนิมิตร และ นางวนิดา โกลพบุรี สองตายาย ซึ่งอาศัยอยู่โกดังร้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  หลังจากมีการแชร์ภาพและ ข้อมูลในทำนองว่า โกดังกล่าวนั้นเป็นของตน และปล่อยให้สองตายาย ซึ่งมีอาการป่วย โดยตาพึ่งได้รับการผ่าตัดมาในขณะที่ยายตาบอด

ซึ่งทั้งสองลำบากมาก เนื่องจากไม่มีคนดูแล  เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับสองตายายและสังคม ว่า  ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งโกดังนั้นไม่ใช่ของตน แต่มีคนแอบอ้างว่าเป็นตน โดยใช้นามบัตรเก่าตั้งแต่ปี 2550 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และ นำมาเขียนเบอร์ติดต่อไว้ด้านหลัง  และ หากมีใครหรือหน่วยงานใดมาตรวจสอบที่โกดังก็ให้ตายายแสดงนามบัตรดังกล่าว และให้บอกว่าโกดังนี้เป็นของนายอภิรักษ์ เพื่อจะได้ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวาย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า  หลังจากที่รับทราบข้อมูลการอาศัยอยู่ในโกดังและการเจ็บป่วยของสองตายาย ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ทีมงานเข้ามาช่วยดูแลเบื้องต้น นอกเหนือจากที่กลุ่มจิตอาสาต่างๆ ที่เข้ามาพบ  และ ได้มีการประกาศขอรับความช่วยเหลือให้กับสองตายายผ่านทางโซเซียลไปแล้ว และมีจิตอาสาต่างๆ นำสิ่งของ ตลอดจนเข้ามาช่วยทำความสะอาดภายในโกดัง

ขณะเดียวกันในส่วนของตนก็ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโกดังดังกล่าว เพื่อหาเจ้าของที่แท้จริง แต่ยังไม่ทราบชัดว่าเป็นของใคร ซึ่งจากการพูดคุยกับคุณตา ทราบว่า ผู้ที่มาพบกับคุณตาและบอกว่าเป็นเจ้าของโกดังจะมีรูปร่างขาวสูง ซึ่งไม่ตรงกับลักษณะของตนซึ่งมีลักษณะท้วมขาว  จึงต้องออกมาชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่า  โกดังและที่ดินดังกล่าวเป็นของตน รวมทั้งตนไม่ดูแลตายายที่ป่วย

สำหรับ 2 ตายาย ดังกล่าว ทราบว่าได้เข้าไปอาศัยอยู่ที่โกดังดังกล่าวมาประมาณ ปี 42 โดยมีคนพาเข้ามาอาศัย ซึ่งเป็นโกดังที่ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า เป็นห้องโล่งขนาดกว้างยาวไม่น้อยกว่า 20 เมตร หลังคาบางส่วนเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาจากการสอบถามหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือ 2 ตายายมาตั้งแต่ปี 2542 ทราบว่า ครอบครัวตนได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือทั้ง 2 ตายายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานราชการทั้งๆไม่ว่าเป็น อบต. อำเภอ หรือ จังหวัด ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทางนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตก็ได้ลงพื้นที่ไปพบกับตายายมาแล้วเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของการปรับปรุงที่อยู่อาศัย เรื่องการรักษาพยาบาล และอื่นๆ  โดยก่อนหน้านี้ตา สามารถทำงานได้ โดยทำงานรับจ้างทั่วไป แต่มาระยะ หลังประมาณ 4 -5 เดือนที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วย

ด้านเจ้าหน้าที่ทหารเรือ รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนและลูกน้องได้เข้ามาช่วยเหลือดูแล 2 ตายายมาแล้วประมาณ 3 ปี ตั้งแต่เข้ามาตั้งหน่วยในบริเวณดังกล่าว โดยทุกวันจะนำกับข้าว และข้าวมาส่งให้กับตายาย ซึ่งมาแรกๆก็ปฏิเสธไม่รับการช่วยเหลือ แต่มาระยะหลังก็ยอมรับ ซึ่งนอกจากเรื่องของอาหารที่จัดส่งทุกวันแล้ว ทางหน่วยยังเข้ามาช่วยเรื่องของการทำความสะอาดให้บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายตากับยายก็จะนำของต่างๆมาเก็บสุมไว้เหมือนเดิม จนเหมือนสภาพที่เห็นในปัจจุบัน ยืนยันว่าที่ผ่านมาทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องอาหาร รวมทั้งดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย พยายามที่จะช่วยซ่อมแต่ทั้ง 2 ไม่ยอมให้ซ่อม ซึ่งก่อนหน้าที่นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตลงมาดูแลและมอบสิ่งของช่วยเหลือด้วยตัวเอง และจะกั้นเป็นห้องพักให้แต่ตายายยังไม่ยอม โดยแจ้งว่ากลัวเจ้าของดกดังจะไล่ออก

ขณะที่การช่วยเหลือ 2 ตายาย จากกลุ่มบุคคลต่าง หลังจากมีการแชร์ภาพ ไปในโลกโซเชียล ปรากฏว่ามีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งคนในพื้นที่ และคนจากต่างจังหวัดที่มาทำงานอยู่ในภูเก็ต เช่นผู้รับเหมารายหนึ่ง ได้นำสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นเตียง ที่นอน เสื้อผ้า อาหาร ของใช้ ถังเก็บน้ำ ผ้าใบที่ใช้ทำเป็นกันสาด ไปมอบให้จำนวนมาก พร้อมด้วยพนักงานเข้าไปจำนวนหนึ่ง เข้าไปช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดและจัดที่นอนให้กับทั้งสองตายายใหม่ นอกจากนั้นยังมีคนนำสิ่งของไปมอบให้อย่างต่อเนื่อง