ยกเสาเอกแล้ว “AKRA COLLECTION LAYAN” คอนโดหรู แนวราบพร้อมพลูวิลล่าอิงแอบธรรมชาติ

นักลงทุนจากส่วนกลาง ผุดโครงการ “AKRA COLLECTION LAYAN” คอนโดหรู แนวราบพร้อมพลูวิลล่า อิงแอบธรรมชาติ มั่นใจเศรษฐกิจซบไม่กระทบตั้งเป้าขายกลุ่มซื้อเพื่อนการลงทุน

เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง พร้อมด้วยนายศิริ ยกทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.เชิงทะเล) และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมเป็นเกียรติในพิธียกเสาเอกโครงการ “อัครา คลอเลคชั่น ลายัน” (“AKRA COLLECTION LAYAN”) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอยลายัน 9 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บริหารงานโดยบริษัท อัครา ลายัน จำกัด โดยมีนายอัครเวช โชตินฤมล ประธานกรรมการบริหารฯ นางสาวศศินกานต์ รุ่งเรืองโรจน์ ผู้จัดการด้านการตลาด  ที่ปรึกษา สถาปนิกและเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมให้การต้อนรับ

นายอัครเวช โชตินฤมล ประธานกรรมการบริหารฯ  กล่าวถึงการตัดสินใจเข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ. ภูเก็ต ในช่วงที่หลายคนมองว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ นักท่องเที่ยวน้อย โรงแรมหลายๆ แห่งกำลังประกาศขาย ว่า เดิมตนเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับธุรกิจต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล เป็นต้น จากประสบการณ์ดังกล่าวก็ได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลงทุนให้เช่าสำนักงานที่กรุงเทพมหานคร หลังจากประสบความสำเร็จจากธุรกิจดังกล่าว ทำให้รูสึกว่าเริ่มชอบการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์

จึงเริ่มมองหาลู่ทางในการลงทุนใหม่ๆ โดยมองว่าธุรกิจที่น่าสนใจขณะนี้คงหนีไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และ สถานที่ ที่จะทำธุรกิจด้านนี้ให้สำเร็จก็ต้องมองไปที่เมืองท่องเที่ยว เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวก็ต้องที่ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันทั่วโลก  และตนมั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต ว่าสามารถทำตลาดได้ดี โดยเฉพาะการปล่อยเช่าซึ่งทำราคาได้ดีกว่ากรุงเทพมหานคร

และจังหวัดภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 400,000 ล้านบาทต่อปี จึงได้ตัดสินใจมาหาซื้อที่ดินจนได้ที่แปลงดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก เนื่องจากอยู่ในโซนของนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เงียบสงบ การเดินทางสะดวกไม่ไกลจากสนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และการตัดสินใจซื้อที่ดินในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้เราสามารถซื้อที่ดินได้ในราคาที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สามารถซื้อได้ใช่ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังดี

“จากประสบการณ์ และการศึกษาวิจัยตลาด พบว่าความต้องการด้านที่พักอาศัยของชาวต่างชาติยังคงมีอยู่ จึงได้ตัดสินพัฒนาที่แปลงนี้ ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ แต่เฟสแรกใช้พื้นที่ 3 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดแนวราบแบบพูลวิลล่า 2 ชั้น จำนวน 28 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ ยูนิตละ 7.99 ล้านบาท ช่วงเปิดตัวโครงการ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้เกือบทั้งหมด โดยมีการจดทะเบียนขออนุญาตเป็นคอนโดมีเนียมเพื่อการพาณิชย์ เพื่อการโรงแรม ขณะนี้มียอดจองไปแล้วกว่า 50%  ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติและคนไทยบางส่วน ซึ่งเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน”

นายอัครเวช กล่าวด้วยว่า  ในส่วนของการบริหารงานนั้น หลังจากสร้างเสร็จทางบริษัทฯ จะทำขอเช่าห้องพักจากเจ้าของทั้งหมดเพื่อนำมาบริหารจัดการ โดยช่วง 5 ปีแรกจะการันตีผลตอบแทนที่ 7% หลังจากนั้นจะแบ่งรายได้คนละครึ่ง โดยทางผู้บริหารฯ จะรับผิดชอบในส่วนของค่าน้ำค่าไฟฟ้าและการซ่อมบำรุงต่างๆ ทั้งหมด  ส่วนเจ้าของห้องรับผิดชอบเฉพาะในส่วนของค่าพื้นที่ส่วนกลาง ค่าประกันภัยและภาษีโรงเรือน นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีคลับเฮ้าส์ ซึ่งจะมีการตกแต่งโดยเน้นความเป็นธรรมชาติ และจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ และสร้างความน่าสนใจตลอดเวลา

ในส่วนของการก่อสร้างนั้น ขณะนี้เริ่มลงมือก่อสร้างบ้านตัวอย่างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจึงจะทยอยสร้างบ้านแต่ละหลังจนครบทั้ง 28 หลัง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณปีเศษ จะแล้วเสร็จประมาณปี 2564 ส่วนในเฟสที่ 2 คงต้องขอดูสถานการณ์ก่อน แต่ได้วางแผนไว้แล้ว โดยเฉพาะส่วนที่สูงที่สุดของโครงการจะมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน จะสร้างเป็นวิลล่าขนาดใหญ่มีประมาณ 10 ยูนิต ขายในราคายูนิตละประมาณ 30 ล้านบาท

ส่วนบริเวณใดที่มองไม่เห็นวิวทะเลก็จะทำในลักษณะของฮันนีมูนฮัทหรือกระท่อมฮันนีมูนที่อิงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด มีประมาณ 40 ยูนิต โดยชั้นล่างของตัววิลล่าจะไม่ติดแอร์ จะเป็นสระว่าย้ำและมีบาร์ ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน ซึ่งจะติดแอร์  มีมูลค่าโครงการรวมทั้ง 2 เฟสประมาณ 600 – 800 ล้านบาท นายอัครเวช กล่าว