ผู้ประกอบการร้านค้าหาดสุรินทร์เข้ายื่นหนังสือขอให้ชะลอถอนร้านค้าผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (18เม.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลกลางจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการร้านค้าหาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กว่า 30 คน นำโดย นายชานนพิพัฒน์ ประชุมศรีสกุล ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้าหาดสุรินทร์ เดินทางมายื่นหนังสือเรื่อง ขอให้ชะลอถอนร้านค้าหาดสุรินทร์โดยขอให้เยียวยาที่ทำกินให้กับชาวบ้านผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการรื้อถอนร้านค้าอาคารร้านค้าหาดสุรินทร์เสียก่อน ให้กับ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว โดยมี นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตามที่ทางอำเภอถลางและองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้ประกาศและได้มีหนังสือแจ้งให้ชาวบ้านผู้ประกอบการร้านค้าหาดสุรินทร์ออกจากอาคารที่ทางราชการจัดสร้างขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านได้ประกอบการค้าเพื่อส่งเสริมอาชีพให้มีรายได้จากการพัฒนาการท่องเที่ยวนั้น โดยทางราชการจะทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าวในวันที่ 20 เม.ย.2559 นี้ ซึ่งรายละเอียดนั้นท่านทราบอยู่ดีแล้ว

นายชานนพิพัฒน์ ประชุมศรีสกุล ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้าหาดสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับอาคารดังกล่าวที่ทางอำเภอและองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลจะทำการรื้อถอนนั้น เป็นอาคารที่จัดสร้างขึ้นด้วยงบประมาณของรัฐเพื่อจัดระเบียบการประกอบอาชีพซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวและซึ่งโครงการก่อสร้างอาคารร้านค้าดังกล่าวเป็นการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งการดำเนินโครงการร้านค้าดังกล่าวได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการโครงการและต่อมาเมื่อมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทำให้พื้นที่หาดสุรินทร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการนักท่องเที่ยวไม่เพียงพอ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลจึงได้จัดหางบประมาณก่อสร้างอาคารร้านค้าให้กับชาวบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นชาวภูเก็ตโดยกำเนิดย่อมทราบดี จึงเป็นสาเหตุให้พวกข้าพเจ้ายึดเป็นอาชีพเพื่อการดำรงชีพเลี้ยงครอบครัว

“หากทางราชการมีความประสงค์ที่จะรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางราชการโดยนายอำเภอถลางและองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลควรจะต้องเยียวยาจัดหาที่ทำกินให้กับพวกชาวบ้านก่อนทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เพราะการรื้อถอนอาคารดังกล่าวนี้ ทั้งทางจังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้อ้างการจัดระเบียบตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งได้ศึกษานโยบายการจัดระเบียบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติแล้ว เข้าใจได้ว่า การจัดระเบียบตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต ซึ่งหากมีการจัดระเบียบก็ต้องหาวิธีการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อน และการรื้อค้นถอนอาคารก็ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการโดยทันที ซึ่งชาวบ้านที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ร้านค้าหาดสุรินทร์ก็มิได้บุกรุกเข้าไปทำกิน แต่เป็นเพราะทางราชการจัดระเบียบให้เข้าไปทำกินโดยจัดสร้างอาคารดังกล่าวให้ และในขณะนี้ผู้ประกอบการได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ขอศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้โปรดพิจารณา ว่า มีสิทธิทำกินตามที่ทางราชการจัดระเบียบให้ทำกินอยู่ก่อนหรือไม่ ซึ่งทราบดีว่า ที่ดินและอาคารดังกล่าวเป็นของรัฐและพวกชาวบ้านยังถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งพวกชาวบ้านเห็นว่า การดำเนินคดีดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งพวกชาวบ้านจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายชานนพิพัฒน์กล่าวและว่า

ดังนั้นเป็นบรรเทาความเดือดร้อนและเพื่อความเป็นธรรมของชาวบ้าน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในฐานะที่เป็นชาวภูเก็ตด้วยกันได้โปรดพิจารณาชะลอการรื้อถอนอาคารดังกล่าวไว้ก่อน โดยการเยียวยาจัดหาที่ทำกินให้กับพวกชาวบ้านด้วย ตลอดจนให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีอาญาข้อหาบุกรุกกับพวกชาวบ้านด้วย

ด้าน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนได้สั่งการให้ นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบประวัติของชาวบ้านแต่ละรายที่ประกอบการหน้าหาดสุรินทร์ว่าเป็นการทำมาหากินมาอย่างไร และขอให้เป็นไปตามกระบวนของกฎหมายต่อไป