มทบ.41 ยันไม่เรียกชาวเลรายงานตัว แค่ขอข้อมูลหาทางแก้ปัญหาขัดแย้ง บารอน

โพสเมื่อ : Tuesday, April 26th, 2016 : 4.59 pm

ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 เผยส่งหนังสือเชิญชาวเลไม่ได้ให้ไปรายงานตัว เพื่อแค่เชิญหารือขอข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งลดความรุนแรงระหว่างชาวเลกับบารอน ชี้ภายในเดือนนี้เชิญ บารอนร่วมหารือด้วย

image

จากการณีเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวไทยใหม่จำนวน 10 คน และเอ็นจีโอ จำนวน 2 คน ได้รับหนังสือ เชิญตัวจากกองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 (มทบ.41) ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ผ่านมา โดยให้ไปรายงานตัวที่ มณฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 22 เม.ย.เวลา 13.00 น. แต่ทางชาวไทยใหม่ไม่สะดวก ในการเดินทาง โดยแจ้งไปทาง มทบ.41 ว่าติดการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

image

ล่าสุดวันนี้ จึงได้นัดให้มาพบกันในวันนี้ ( 26 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต กลุ่มชาวบ้านไทยใหม่บ้านราไวย์และเอ็นจีโอ จำนวน 12 คน ประกอบด้วย นายอาหลิม หาดทรายทอง นายเสกสรรค์ บางจาก นายเลี้ยว หลักเกาะ นายหงีม ดำรงเกษตร นายชนะ หาดทรายทอง นายสนิท แซ่ซั่ว นายนิรันด์ หยังปาน นายสงัด หาดวารี นายบุญนำ บางจาก นายบัญชา หาดทรายทอง นายไมตรี จงใจกว้าง และนางปรีดา คงแป้น ได้เข้าพบพลตรี ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 /ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 แล้ว โดยมีมีชาวไทยใหม่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ เดินทางมาให้กำลังใจด้วยเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมี นายคมสัน โพธิ์คง รองคณะบดี ฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยรังสิต นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตัวแทนจากจังหวัด เข้าร่วมสังเกตการณ์ ด้วย

image

สำหรับการเดินทางเข้ารายงานตัวของชาวไทยใหม่ราไวย์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังชาวบ้านได้รับหนังเชิญตัวจากกองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 (มทบ.41) ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ให้แกนนำชาวเลราไวย์ อ.เมืองภูเก็ตและเอ็นจีโอรวม 12 ราย ไปพบเพื่อสอบถามและให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 1 เมษายน 2558 ในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า เนื่องด้วยมีข้อมูลข่าวสารอันน่าเชื่อถือว่า เกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือเป็นแกนนำในการชุมนุมของชาวไทยใหม่(ราไวย์)อันถือเป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศ หรือคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาศัยอำนาจอ้างถึง มณฑลทหารบกที่ 41/กองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ขอให้ไปพบผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41/ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ณ กองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2559 เวลา 13.00 น.ลงนามคำสั่ง พลตรี ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41/ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41

image

โดยนายนิรันดร์ หยังปาน หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกเรียกตัว กล่าวก่อนที่จะเข้าพบกับทาง พลตรี ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 /ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ว่า หลังได้รับหนังสื่อก็รู้สึกตกใจ ที่ตกเป็นแกนนำชาวบ้าน ทั้งๆที่สิ่งที่ตนทำไปนั้น ทำไปในฐานะชาวบ้านที่ต้องการรักษาสิทธิ์เท่านั้น และเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ได้แจ้งไปทางทหารว่า ไม่สามารถเดินทางไปที่นครศรีธรรมราชได้ เนื่องจากชาวบ้านติดภารกิจ จัดงานแต่งเปลว ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน และมีการแจ้งกลับไป มทบ.41 แล้วว่า จะขอเดินทางไปพบวันอื่น แต่ทางมทบ.41 ได้นัดให้มาพบในวันนี้ ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต

image

ขณะที่พลตรี ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 /ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 เปิดเผยว่า การลงมาพบปะกับชาวไทยใหม่ในครั้งนี้ เป็นการมารับฟังข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงจากชาวไทยใหม่โดยตรง โดยที่ไม่มีหน่วยงานอื่นๆร่วมพูดคุย และไม่ได้เป็นการเรียกให้ชาวไทยใหม่ไปรายงานตัวเหมือนที่มีการเข้าใจกัน ในหนังสือเป็นการส่งมาเพื่อให้ไปพบปะพุดคุยเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเรียกให้ไปรายงานตัวแต่อย่างใด แต่เป็นการเชิญมาให้ข้อมูล เพื่อรับทราบข้อมูลจริงๆจากปากชาวไทยใหม่ เพราะที่ผ่านมามีการประชุมกันไปหลายครั้ง มีทั้งหน่วยราชการ ชาวไทยใหม่ และหน่วยงานอื่นๆ เมื่อมีการพูดคุยกันก็จะมีการแย้งกันไปแย้งกันมา จนทำให้ชาวบ้านไม่สามารถพูดในสิ่งที่อยากจะพูดได้อย่างเต็มที่ ตนจึงอยากให้ชาวบ้านได้สื่อออกมาอย่างเต็มที่ถึงความต้องการ ที่สื่อออกมาด้วยความบริสุทธิ์จากชาวเล อยากได้สิ่งที่เป็นชีวิตและจิตวิญญาณของชาวเลจริงๆที่ไม่มีการปรุงแต่ง

image

จากการพูดคุยกับชาวไทยใหม่ก็ได้ข้อมูลมากพอสมควร โดยเฉพาะสิทธิในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสิทธิในการทำกิน สิ่งเหล่านี้ก็จะรวบรวมไว้ เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างชาวไทยใหม่และบริษัทเอกชน ที่กำลังมีปัญหาความขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับครั้งนี้ถือว่ายังไม่ครอบคลุม เพราะจะต้องเชิญในส่วนของทางบริษัทบารอน มาร่วมพูดคุยด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะร่วมหารือกับทางบริษัทบารอนได้ภายในเดือนนี้ คิดว่าถ้าได้มีการพูดคุยกับทุกฝ่ายจะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ ซึ่งในเรื่องนี้คิดว่าทางทหารจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการหาทางออกร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการหารือกับทุกฝ่ายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ และเกิดความสงบในพื้นที่

image

ส่วนกรณีที่มีการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาของชาวไทยใหม่ ทั้งกรณีชาวไทยใหม่กับชาวบ้านในพื้นที่ และกรณีชาวไทยใหม่กับทางบริษัทบารอน จะไม่ก้าวล่วงจุดนี้ แต่สิ่งที่ทหารจะเข้ามาทำคือปัญหาเรื่องความกระทบกระทั่งกัน ระหว่างชาวไทยใหม่กับทางบริษัททำกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งชาวบ้านเองก็ไม่อยากที่จะให้มีปัญหาเกิดขึ้น อยากที่จะให้อยู่กันอยากสงบสุข การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อมาหาข้อมูล เพื่อนำไปกำหนดวิธีการในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นในพื้นที่

image

ขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาที่ดินในส่วนของชาวไทยใหม่ที่ราไวย์ มี 2 ส่วน คือ ในส่วนของชุมชนที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ในที่ดินที่มีชาวบ้านอ้างสิทธิ์เนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ จุดนี้ทางจังหวัดกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยการเสนอไปยังรัฐบาลในการจ่ายชดเจนให้กับเจ้าของที่ดิน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ พอสมควร หลังจากนั้นก็จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านให้ดีขึ้น ส่วนกรณีของบารอนก็ปล่อยให้มีการดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งดีเอสไอมีข้อมูลอยู่แล้ว

image