(ชมคลิป) DSI ลงเกาะนาคาน้อยเก็บข้อมูลเพิ่มก่อนส่งเข้าเป็นคดีพิเศษยันตรวจทั้ง 2 ฝ่าย

โพสเมื่อ : Thursday, June 2nd, 2016 : 3.51 pm

DSI นำคณะลงเกาะนาคาน้อยภูเก็ตดูหลักฐานออกเอกสารสิทธิ์เพิ่มเติมก่อนนำเข้าคดีพิเศษหลัง 2 ฝ่าย ร้องเรียน ยันตรวจสอบทั้ง 2 ราย เบื้องต้นได้หลักฐานเพิ่มประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจข้อมูลหลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ –ภาพถ่ายทางอากาศ14773

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (2 มิ.ย.) พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ และ นางชญาทิตย์ จิตรหลัง ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต นำเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ออกจากท่าเทียบเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลองก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อร่วม ตรวจสอบพื้นที่เกาะนาคาน้อย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อเก็บข้อมูลสภาพพื้นที่เกาะนาคาน้อยเพิ่มเติม14892

กรณีมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก เลขที่ 3977 ซึ่งเป็นของบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ ในการรับคดีออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. เลขที่3977 ดังกล่าวเข้าเป็นคดีพิเศษ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทางคณะได้ใช้เรือขับวนรอบเกาะนาคาน้อย ซึ่งขณะที่กำลังล่องเรือผ่านไป พบเรือหางยาวจำนวน 1 ลำ จอดเทียบชายหาดอยู่ โดยมีคนกำลังขนต้นปาล์มขึ้นไปบนเกาะนาคาน้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปสอบถามแต่อย่างใด

พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า การลงตรวจสอบพื้นที่ครั้งนี้ ตนพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนลงมาในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและจัดเตรียมข้อมูลขั้นสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อเสนอกรณีนี้ให้เป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อน เนื่องจากมีคู่กรณีที่เข้าเกี่ยวข้อง 2 ฝ่าย ที่ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการออกเกสารสิทธิที่ดิน ยืนยันว่าในการทำงานนั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะต่างก็มีพยานหลักฐานมายืนยัน เมื่อมีการยื่นเอกสารมาก็ต้องรับไว้ตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่าย และที่สำคัญการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกะนาคาน้อยจะต้องต้องตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน และจะไม่เลือกปฏิบัติ14772

แต่สิ่งที่จะชี้ขาดในเรื่องการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งหลักฐานที่จะนำเข้าสู่คณะกรรมการคดีพิเศษ คือ เรื่องของการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ตามปีพ.ศ.ที่มีการอ้างว่าเข้าทำประโยชน์ต่อเนื่อง ในส่วนนี้จากการดูพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่มีอยู่ในเบื้องต้น พบว่า ที่ดินแปลงนี้น่าจะมีปัญหา เนื่องจากอ้างว่ามีการทำประโยชน์ในที่ดิน แต่จากการอ่านแปลภาพถ่ายพบว่าไม่น่าจะมีการทำประโยชน์ ซึ่งจากมองทางด้านกายภาพเห็นมีลักษณะเป็นป่าและเขา ซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ส่วนการเข้าทำประโยชน์ในแปลงที่ดินซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้นก็ได้มีการประสานไปทางฝ่ายปกครองแล้วว่า ขอให้แจ้งทางผู้ครอบครองให้ระงับการก่อสร้างใดๆ ไว้ก่อน ส่วนทางผู้ครอบครองจะดำเนินการอะไรหรือไม่อย่างไร ก็ต้องพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่S__13148269

อย่างไรก็ตามสำหรับความสำเร็จในการนำคดีนี้เข้าเป็นคดีพิเศษในครั้งนี้ ก็สืบเนื่องจาก มีการบูรณาการความร่วมมือด้วยกันในการทำงานจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทางเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอถลางที่ส่งมอบเอกสารหลักฐานส.ค.1 ตัวจริงให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญมาก ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการประสานและบูรณา ความร่วมมือกับสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบเอกสารต่างๆ

ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้ก็พบหลักฐานบางอย่างซึ่งคิดว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ที่จะนำมาใช้ในการประกอบพิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้บอกว่าอะไรผิดหรือถูก เพียงจะเอาไปประกอบการพิจารณาเท่านั้น ซึ่งต้องบอกว่าการนำหลักฐานไปนำเสนอต่อคณะกรรมการพิเศษ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งก่อนนำเสนอต้องมีการกลั่นกรองแล้วระดับหนึ่งว่าหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ เพราะหากหลักฐานไม่เพียงพอทางคณะกรรมการฯ ก็จะไม่พิจารณา จึงต้องมีกระบวนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว ที่ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีที่มีการยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยเฉพาะการนำภาพถ่ายทางอากาศมายื่น รวมทั้งกรณีการอ้างว่ามีการทำประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2497 ก็จะต้องมีการทำประโยชน์มาตั้งแต่อ้าง ซึ่งสามารถดูได้จากภาพถ่ายทางอากาศ กรณีที่มีการอ้างภาพถ่ายทางอากาศปี 2510 ก็จะตรวจสอบจากภาพถ่ายในปีเดียวกัน หรือถ้ามีหลักฐานอะไรมากกว่านี้ก็พร้อมที่จะตรวจสอบ ส่วนการตรวจสอบเมื่อมีการร้องเรียนจากทั้ง 2 ฝ่ายก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน จะไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน2

ทางด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของที่ดินที่มีข้อพิพาททั้งสองแปลงนั้น กรณีของครอบครัวหิรัญพฤกษ์ นั้น พบว่ามีการออกเอกสารในปี 2518 ซึ่งขณะนี้กฎหมายยังเปิดช่องให้สามารถใช้การทำประโยชน์ในที่ดินก่อนปี 2497 ได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเดิมมาแสดง แต่ก็ตต้องไปดูว่า มีส่วนที่เกินไปหรือไม่ แต่ทราบว่าทางนายอำเภอสมัยนั้นได้ตัดพื้นที่บนเขาออกไปแล้ว ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป แต่ส่วนของพื้นที่แปลงเกิดเหตุ มีความชัดเจนด้านพยานหลักฐานทั้งทางด้านกายภาพที่เห็นส่วนหนึ่ง และ ส.ค.1 ซึ่งกรมที่ดินได้ตรวจสอบแล้ว รวมทั้งได้มีการตั้งกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการเสนอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าวแล้ว จึงมีความชัดเจนพอสมควรในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป