ชุด ชปส.ภ.จว.ภูเก็ต โชว์ผลงาน จับ 5 เครือข่ายยาเสพติด ยึดยาไอซ์-ยาบ้า กว่ามูลค่า 5 ล้านบาท

“รองวิทย์”  กำชับลูกทีมชุดปราบปรามยาเสพติด ก่อนบินลัดฟ้า อบรมที่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้ำให้ทำหน้าที่ด้านปราบปรามยาเสพติดให้เต็มความสามารถ เพื่อลูกหลานเราไม่ต้องตกเป็นทาสยาเสพติดและเพื่อสนองตามนโยบายรัฐบาล-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ -กองบัญชาการตำรวจภาค 8 และ ภูธรจังหวัดภูเก็ต ล่าสุด ลูกทีมทำงานได้ดั่งใจกวาดล้างขยายผลได้ผู้ต้องหา 5 คน ยาไอซ์ กว่า 2 กิโลกรัม -ยาบ้า อาวุธปืน-เครื่องกระสุน เพียบ มูลค่า กว่า 5 ล้านบาท โทรให้กำลังใจลูกทีมข้ามทวีป สั่งล้างบางเครือข่ายให้สิ้นซาก

เมื่อเวลา 13.00 น.ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.ธีระพล  ทิพย์เจริญ  ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต  ,  พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย  รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจชุปราบปรามยาเสพติดออกกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ระหว่างวันที่ 4 – 6 พ.ค.ที่ผ่านมา นำโดย ร.ต.อ.สุชาติ  ชุมภูแสง เจ้าหน้าที่ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยร.ต.ท.พิทยา  ธนาวุฒิ , ร.ต.ท.ภูเอก  มุสิกวงษ์ , ร.ต.ต.สุธน ภักดี และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระดมกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย

ประกอบด้วย 1.นายนราชัย หรืออ้น ชวดเชื้อ  อายุ 33 ปี  พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 13 เม็ด  โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ เมื่อ 4  พฤษภาคม 2559  เวลาประมาณ 18.00 น. หลังห้องพักเลขที่ 104 ภัทรแมนชั่น ซ.นพคุณ ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต

2.นายจรินทร์ หรือปุ๊ รัตนสิทธิ์ อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์  น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 8 กรัม โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุม ได้เมื่อ วันที่ 5  พฤษภาคม 2559  เวลาประมาณ 01.00 น. บริเวณริมถนนหน้าอพาร์ทเม้นท์ไม่มีชื่อ(เลขที่ 134/83) ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำส่ง พงสฯ สภ.ถลาง  ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

3.นายมงคล หรือกิ๊ก เชษฐพันธ์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง  ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 239 กรัม ยาบ้า จำนวน 492 เม็ด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ใช้บรรจุกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 35 นัดโดยกล่าวหาว่า “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  จับกุมได้  เมื่อวันที่  5  พฤษภาคม 2559  เวลาประมาณ 01.30 น. บริเวณบ้านเช่าเลขที่ 60/8 หมู่ที่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

4.นายชูชาติ หรือฮ้อง วรรณวิชัยกุล อายุ 35 ปี จับกุมได้พร้อมของกลาง  ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 1,941.9 กรัม ยาบ้า จำนวน 5,580 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ” จับกุม  เมื่อ 5  พฤษภาคม 2559 เวลาประมาณ 17.40 น. บริเวณสวนยางริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3033 หมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.  ภูเก็ต

และ 5.นายยศวริศ หรือบูม แก้วไพฑูรย์  อายุ 23 ปี  พร้อมของกลาง  ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 66.9  กรัม ยาบ้า จำนวน 368 เม็ด โดยกล่าวหาว่า “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ” จับได้กุม  เมื่อ 5  พฤษภาคม 2559  เวลาประมาณ 17.00 น.  บริเวณลานจอดรถ ภัทรแมนชั่น ซ.นพคุณ ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องห้องพัก เลขที่ 303 โชติมาอพาร์ทเม้นท์  ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายนราชัย ชวดเชื้อ หรืออ้น เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่มีเครือข่ายยาเสพติดอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนหลายคน และพักอาศัยอยู่ที่แมนชั่น ซ.นพคุณ ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวจากสายลับแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบนายนราชัยฯ เดินออกมาทางประตูหลังห้องพักลักษณะมีพิรุธ  จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อนายนราชัยฯ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามหลบหนี แต่ถูกควบคุมตัวไว้ได้ จึงขอตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาตัวที่นายนราชัยฯ สวมใส่อยู่ จึงยึดไว้เป็นของกลาง และนำไปตรวจค้นในห้องพัก พบบัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย จำนวน 2 ใบ และโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นได้นำตัวมาสอบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมตัว นายจรินทร์ หรือปุ๊ รัตนสิทธิ์ ซึ่งอยู่ในเครือข่ายยาเสพติดเดียวกับนราชัย ซึ่งนายนราชัยจะนำยาเสพติดติดที่ส่งมาจากภาคกลางไปฝากไว้ เพื่อเอาไปจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ ซึ่งนายนราชัยและนายจรินทร์ รู้จักกันในช่วงที่ติดคุก อย่างไรก็ตามหลังจากมีการจับกุมนายนายจรินทร์ หรือปุ๊ รัตนสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลจนทราบว่ายังมีเครือข่ายเกี่ยวข้องกับนายนราชัยและนายจรินทร์อีกหลายคน  เนื่องจากหลังจากนายนราชัยนำยาเสพติดมาฝากไว้กับนายจรินทร์นายจรินทร์ก็จะนำไปฝากกับคนอื่นต่ออีก จนทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุ่มผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก นายชูชาติ หรือฮ้อง วรรณวิชัยกุล นายมงคล หรือกิ๊ก เชษฐพันธ์

ส่วนกรณีนายยศวริศ หรือบูม แก้วไพฑูรย์  ผู้ต้องหาคนที่ 5 นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายนราชัย ซึ่งการจับกุมนายยศวริศ ในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ  ว่านายยศวริศ หรือบูม แก้วไพฑูรย์ ลักษณะรูปร่างผอมสูง มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดและมักพกยาเสพติด ติดตัวอยู่เสมอและจะขับรถไปหาเพื่อนที่แมนชั่น ซ.นพคุณ ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต อยู่เป็นประจำ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อมด้วยสายลับ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ  17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งซุ่มอยู่ในบริเวณดังกล่าว เห็นชายไทย ลักษณะรูปร่าง ตรงตามที่สายลับแจ้งให้ทราบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดที่บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ของแมนชั่น ฯ โดยมีลักษณะมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อนายยศวริศฯ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามหลบหนี แต่ถูกควบคุมตัวไว้ได้ ตรวจสอบพบ ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 30.8  กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงในที่นายยศวริศฯ สวมใส่ จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายยศวริศฯ ยอมรับว่าที่ห้องเลขที่ 303 โชติมาอพาร์ทเม้นท์  ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยังคงมียาเสพติดอีกส่วนหนึ่งซุกซ่อนอยู่  จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 303 โชติมาอพาร์ทเม้นท์ พบยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 36.1 กรัม และ ยาบ้า จำนวน  2 ถุง รวม 368 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในลำโพง จึงควบคุมตัวดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่าชุดจับกุมดังกล่าวได้รับการกำชับจาก พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อให้ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ลูกหลานถูกมอมเมาจากยาเสพติดและเป็นการสานนโยบายของรัฐบาล-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามยาเสพติด และก่อนที่ พ.ต.ท.ประวิทย์ จะเดินทางไปอบรมที่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ให้ลูกน้องทุกคนทำหน้าให้เต็มความสามารถ และทราบว่าแม้นจะเดินทางไปอยู่ที่เกาะฮาวายแล้ว  พ.ต.ท.ประวิทย์  ยังมีการโทรมาสอบถามและเป็นกำลังใจให้ลูกน้องที่ทำงานทุกคน