ฆ่าโหดหนุ่มพม่าตายปริศนานำศพซุกในที่นอนทิ้งป่าชายเลน คาดเหตุจากเรื่องเงิน

พบศพหนุ่มใหญ่ชาวพม่าถุกฆ่าตายปริศนา คนร้ายนำศพห่อด้วยที่นอนก่อนนำไปทิ้งในป่าชายเลน เพื่อนข้างห้องเผยหายไปนานหลายวันหลังมีปัญหาเรื่องเงินค่าจ้างกับนายหน้า

เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (3พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า พบศพถูกห่อด้วยที่นอน ที่บริเวณป่าชายเลน ซอยท่าเรือใหม่ ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ต.สากล ไกรนรา สว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.ชาตรี เวชรังสี รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต ร้อยเวรป้องกันปราบปรามสภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลรัษฎา ร.ต.ท.สมบูรณ์ ยิ่งยงค์ นวท.สบ.1 พฐ. จว.ภูเก็ต แพทย์หญิงธันยา ปิติยะกูรชร แพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตที่เกิดเหตุเป็นป่าชายเลนใกล้กับปากซอยดังกล่าว เห็นประชาชนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก พบที่นอนสีเทาเทาอ่อนถูกมัดด้วยเทา 3 เส้นแช่อยู่ในน้ำมีหนอนไต่อยู่เป็นจำนวนมากส่งกลิ่นเหม็นคละฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ลากที่นอนดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบ ปรากฏว่า ภายในที่นอนพบศพชายชาวเมียนมาร์ สวมกางเกงฟุตบอลสีน้ำเงินและมีกางเกงจีนสีม่วงถูกสวมทับอีก 1 ตัว สวมเสื้อแขนยาวเทา ทราบชื่อภายหลัง นายไปไตจอ อายุประมาณ 51 ปี โดยที่บริเวณใบหน้าถูกพันด้วยผ้าขนหนูสีฟ้า ซึ่งทางแพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายที่ชัดเจน เนื่องจากศพเริ่มเน่าเปื่อย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงนำศพส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

จากการสอบสวน นางมาลี อายุ 43 ปี ชาวเมียนมาร์ เพื่อนข้างห้องผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้กลับมาเรือประมงประมาณวันที่ 27 เม.ย.2559 แล้วกลับมาพักที่ห้องพัก จากนั้นได้มีนายหน้าของผู้ตายนำเงินค่าจ้างจากการทำงานเรือประมงให้จำนวนหนึ่ง และถูกนายหน้าหักไป ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและได้สอบถามนายหน้า ว่าหักเงินไปทำไม จากนั้นทั้งคู่ได้มีการโต้เถียงกันและนายหน้าได้ทำร้ายผู้ตายด้วยการใช้ขวดตีหัว จากนั้นทั้งคู่ก็ได้แยกย้ายกันไป ส่วนผู้ตายก็ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตนและเพื่อนๆก็ได้ตามหาผู้ตายมาตลอด จนกระทั่งมาพบศพในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของฆาตกรรมที่แท้จริง และจะเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป