จับแล้วจีนฝ่าฝืน ให้อาหารปลาที่เกาะไข่นอก จ.พังงา ที่เกาะไข่ จ.พังงา 

เจ้าหน้าที่จับเป็นรายแรกนักท่องเที่ยวชาวจีนขณะให้อาหารปลาที่เกาะไข่นอก จ.พังงา  หลังบังคับประกาศใช้พระราชบัญญัติวันนี้ ( 27 พ.ค.) นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2559 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6  และ เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงลงพื้นที่เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย เพื่อติดตามตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 443/2559 เรื่อง มาตรการ หลักเกณฑ์ และ  เงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บริเวณเกาะไข่นอก เกาะไข่นุ้ย และเกาะไข่ใน อ.เกาะยาว จ.พังงา ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 เพื่อเข้มงวดกวดขันกับนักท่องเที่ยว ไม่ให้ทำผิดทำลายทรัพยากรทั้งที่รู้และไม่รู้เท่าถึงการณ์

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 1 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ นาย ZHOU HONGZHI จากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน กำลังให้อาหารปลา บริเวณชายหาดเกาะไข่นอก ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 443/2559 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ข้อ 3 ห้ามค้นหา ล่อ จับ ได้มา เก็บสัตว์น้ำ หรือกระทำใดๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อล่อจับได้มา หรือเก็บสัตว์น้ำหรือให้อาหารสัตว์น้ำ จึงทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยโทษตามกฎหมาย ปรับไม่เกิน 1 แสน จำคุกไม่เกิน1 ปี ในส่วน นักท่องเที่ยวรายนี้ ไกด์ได้นำเงินสดมาประกันตัว จำนวน1 แสนบาท ก่อนเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวออกไป หลังจากนั้นทางพนักงานสอบสวนก็นัดวันขึ้นศาลเพื่อให้ศาลตัดสินต่อไป

นายวัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับช่วงบ่ายในวันนี้ ( 27 พ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันจะลงพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ เพื่อนำคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 443/2559 ติดประกาศที่ชายหาดและร้านค้าต่างๆที่อยู่บนชายหาด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบได้ทราบถึงมาตรการของกรมทรัพยากรฯ และขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว  นอกจากนั้นจะนำเอกสารแจกให้กับไกด์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวได้ทราบถึงมาตรการตามประกาศของกรมทรัพยากรฯ เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวกระทำความผิดอีก โดยทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอีกต่อไป