ส่งมอบอาคารผู้โดยสารในประเทศเฟสแรก 27 พ.ย. นี้ รองรับไฮซีซั่นนี้

โพสเมื่อ : Tuesday, October 10th, 2017 : 2.59 pm

เปิดใช้อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเฟสแรก 27 พ.ย.นี้ ก่อนส่งมอบพื้นที่เทอร์มินอล 2 ปรับปรุงต่อไป ไฮซีชั่นนี้มีไฟลท์เข้าวันละ 300 เที่ยวบิน ผู้โดยสารทะลุ 5 หมื่นคน 

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย เรืออากาศตรีธานี ชูช่วง รองผู้อำนวยการ (สายสนับสนุนธุรกิจ) เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการ (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินการของท่าอากาศยานภูเก็ต ในโอกาสจัดงานครบรอบ 29 ปี ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2560 ที่ผ่านมา ณ อาคารเทอร์มินอลเอ็กซ์ ว่า 

ท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นมียุทธศาสตร์เป็นประตูสู่อันดามัน (Gateway to the Andaman) คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกและตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินการตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน จนสามารถเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด 

โดยปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ต มีสายการบินทำการบินทั้งสิ้น 52 สายการบิน แบ่งเป็นสายการบินภายในประเทศ 8 สายการบิน สายการบินระหว่างประเทศ 36 สายการบิน และสายการบินเช่าเหมาลำ 8 สายการบิน ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (ตุลาคม 2559 – สิงหาคม 2560 ) ท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 10.01 โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศร้อยละ 5.3 และผู้โดยสารระหว่างประเทศร้อยละ 10.51 และจากการคาดการณ์พบว่าในปี 2561 ท่าอากาศยานภูเก็ต จะมีแนวโน้มในการเติบโตของผู้โดยสารภายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 5.3 ผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโตขึ้นร้อยละ 8.8 โดยภาพรวมของผู้โดยสารเติบโตขึ้นร้อยละ 7.2 ซึ่ง 

จากการเติบโตดังกล่าวจะส่งผลให้ท่าอากาศยานภูเก็ตกลายเป็นศูนย์กลางของการบินในภูมิภาค ซึ่งในปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในหลายๆส่วน ทั้งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่เปิดให้บริการไปแล้ว อาคารผู้โดยสารในประเทศ หลุมจอด อาคารที่จอดรถ เป็นต้น เพื่อรองรับผู้โดยสารปีละ 12.5 ล้านคน ซึ่งขณะนี้การปรับปรุงระยะแรก ได้แล้วเสร็จและท่าอากาศยานภูเก็ตได้ตรวจรับงานจากผู้รับเหมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบระบบทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้หลังเที่ยงคืนของวันที่ 27 พ.ย.2560 เพื่อให้บริการเที่ยวบินแรกในช่วงเช้าของวันที่ 28 พ.ย.2560นี้อย่างแน่นอน และเมื่อการปรับปรุงในระยะแรกแล้วเสร็จจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศระยะที่สองตามมา โดยทางท่าอากาศยานภูเก็ตจะส่งมอบพื้นที่เทอร์มินอล 2 ในปัจจุบันที่ให้ผู้รับเหมาภายในเดือน พ.ย.2560 และคาดว่าจะสามารถปรับปรุงให้แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในเดือน มิ.ย.2561 ซึ่งเมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ กล่าวเพิ่มว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานนั้น ท่าอากาศยานภูเก็ตได้พัฒนาการให้บริการเพื่อยกระดับให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น โดยท่าอากาศยานภูเก็ตมีแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การจัดอันดับท่าอากาศยานของสภาท่าอากาศยานสากล (Airport Council International: ACI) ซึ่งสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ปีงบประมาณ 2560 – 2564 ในเชิงยุทธศาสตร์ที่ 1 โดยผลคะแนนความพึงพอใจผู้โดยสารเป็น 1 ในวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กำหนดไว้ นอกจากนี้การสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเป็นเรื่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ตให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง โดยท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินและแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในท่าอากาศยานให้มีความพร้อมอยู่เสมอ รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงตลอดจนการให้การสนับสนุนการปฏิบัติการต่างๆในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตามนอกจากการพัฒนาทางด้านธุรกิจการบินแล้วนั้น

การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ชุมชนโดยรอบสามารถเติบโตควบคู่ไปกับท่าอากาศยาน โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ให้การสนับสนุนชุมชนโดยรอบ รวมไปถึงการดำเนินการด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวในตอนท้ายว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตมีแผนที่จะพัฒนาให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 18 ล้านคน เพราะขณะนี้ผู้โดยสารที่ผ่านมาท่าอากาศยานภูเก็ตอยู่ที่ปีละกว่า 15 ล้านคนแล้ว ในขณะที่ความสามารถในการรองรับได้หากมีการปรับปรุงแล้วเสร็จอยู่ที่ 12.5 ล้านคน ซึ่งจะเต็มความสามารถในการรองรับได้อีกระยะหนึ่ง การพัฒนาท่าฯภูเก็ตอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาของบริษัทท่าอากาศยานไทยด้วยงบประมาณ 200,000 กว่าล้านบาทแล้ว โดยการพัฒนาในเฟสต่อไปนั้นจะดำเนินการในส่วนพื้นที่บริเวณที่เป็นบ้านพัก มีการก่อสร้างหลุมจอดเครื่องบินเพิ่มประมาณ 4-5 หลุม ก่อสร้างอาคารจอดเทียบเครื่องบินที่จะเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารต่างประเทศ อาคารจอดรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานภูเก็ต ถือเป็นท่าอากาศยานที่ทำรายได้รองจากท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสิ้นปี 2560 นี้ คาดว่ารายได้สุทธิน่าจะอยู่ที่ 5,700 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 16% และหลังจากที่การปรับปรุงเสร็จทั้งหมดประมาณกลางปี 2561 คาดว่าในปี 2562 ท่าฯภูเก็ตน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท จากที่สามารถรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารได้มากขึ้น

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ  กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้ ท่าฯภูเก็ตมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารมากยิ่งขึ้นจากก่อนหน้านี้ เพราะอาคารผู้โดยสารในเฟสแรกก็ได้ปรับปรุงแล้วเสร็จ การจราจรภายในท่าฯก็จะคล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่ก็อาจจะไม่สะดวกบ้างให้บางจุดแต่ทางท่าฯก็จะให้บริการให้ดีที่สุด โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่าวันละ 50,000 คน เที่ยวบินไม่ต่ำกว่า 300 ไฟลท์