นทท.ต่างชาติไม่สนคำเตือนจับดาวทะเลถ่ายรูปเล่นที่เกาะราชาภูเก็ต

 เตือนไม่ฟัง ! นทท.ต่างชาติไม่สนคำเตือน ลงไปเล่นน้ำที่เกาะราชา จับปลาดาวขึ้นมาถ่านรูปเล่น เจ้าหน้าที่ฯเร่งหาเรือที่นำนทท.ไปเที่ยวที่เกาะแล้ว

วันนี้ (11 ส.ค.60) ได้มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ค ว่า Khanchit Klingklip ได้โพสต์ ภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จับปลาดาวชูขึ้นเหนือน้ำบริเวณอ่าวหลา เกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กันอย่างสนุกสนาน และเขียนข้อความว่า “อีกแล้ว ทัวร์ทำลายทรัพย์กรฯ เมื่อเวลาประมาณ 11.00/11/08/2560 พื้นที่อ่าวหลา เกาะราชาใหญ่ ในโซนนิ่งดำน้ำผิวน้ำ ในพื้นที่หวงห้าม ทีมเรีอ+ไกด์ หายไปไหน?

แต่หากดูดีๆ นักท่องเที่ยวใส่ชูชีพแล้ว ใครจับมันขึ้นมา ? นี้คือคำถาม…กฎกติกา เขามี จะบอกไม่รู้ก็ไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ควรนำตัวให้รับผิดชอบ จะบอกไม่รู้คงไม่ได้” ผ่านทางเพจร้องเรียน แจ้งข่าวสาร แสดงความคิดเห็น กับเพจเสียงประชาชน คนภูเก็ต ซึ่งมีผู้มาแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลเป็นจำนวนมาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้  นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) กล่าวว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ให้เจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งประจำอยู่บนเกาะไปตรวจสอบหาเรือที่มีการระบุตามภาพ แต่ไม่พบเรือลำดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้ตนจะประสานขอข้อมูลไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตเพื่อตรวจสอบว่า เรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าวเป็นของใคร เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีเรืออยู่หลายลำ จึงต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเรือที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้นได้นำนักท่องเที่ยวมายังเกาะราชาและมีนักท่องเที่ยวที่อยู่ในความดูแลจับปลาดาวขึ้นมาตามที่ปรากฏอยู่ในภาพหรือไม่

เพราะเบื้องต้นทราบเพียงว่า เรือลำดังกล่าวไม่ใช่เรือที่นำนักท่องเที่ยวออกมาจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรือที่มาจากท่าเทียบเรือใด ผู้ประกอบการและมัคคุเทศก์หรือไกด์ย่อมทราบดีว่า ก่อนให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำหรือดำน้ำนั้นจะต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจะต้องไม่มีการไปจับสัตว์น้ำหรือปะการังขึ้นมาจากน้ำ

“ที่ผ่านมาได้จัดเจ้าหน้าที่ฯ ลงไปประจำอยู่บนเกาะ 2 นาย เพื่อทำชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกระอบการหรือมัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบนเกาะราชา ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมามีทั้งบริษัทที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีบางบริษัทที่ยังเมินเฉย โดยเจ้าหน้าที่ฯ ทำได้เพียงการขอความร่วมมือให้มัคคุเทศก์ประจำกรุ๊ปได้ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว ไม่ให้มีการให้อาหารปลา รวมถึงการจับสัตว์น้ำหรือปะการัง หากไม่มีการนำติดตัวกลับไป ก็ทำได้เพียงแค่การว่ากล่าวตักเตือน แต่หากกรณีที่นักท่องเที่ยวนำสัตว์น้ำหรือปะการังติดตัวกลับไปด้วยและมีการตรวจพบก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย”

ส่วนกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนแลตรวจสอบว่าเรือลำที่พานักท่องเที่ยวชุดดังกล่าวอยู่ที่ไหน เป็นเรืองของบริษัทใด