ไกด์ไทย สุดทน ยึดแหลมพรหมเทพ ถือป้ายประท้วงไกด์เถื่อนชาวจีนแย่งงาน
โพสเมื่อ : Thursday, December 21st, 2017 : 9.15 pm
ไกด์คนไทย สดทน ยึดแหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ประท้วงไกด์เถื่อนชาวจีน ระบุเดือดร้อนหนักบริษัททัวร์เลือกใช้ไกด์เถื่อนแทนคนไทย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อหารือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว
กรณีมีการการแชร์ภาพ กลุ่มไกด์คนไทย ถือป้ายประท้วงไกด์เถื่อนจีน ที่แหลมพรมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาแก้ไขความเดือดร้อนหลังไกด์เถื่อนเข้ามาแย่งงาน บริษัททัวร์ไม่จ้างไกด์คนไทย ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าไป พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เกี่ยวกับเรื่องนี้
โดย ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า เมื่อวานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้จะได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ รวมทั้งรายงานให้ทางจังหวัดทราบเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเรียกทั้งสองผ่ายมาพูดคุยทำความเข้าใจ และ ให้ทางผู้ที่มายืนถือป้ายได้กลับไปทำข้อเรียกร้องแล้วไปยื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ซึ่งปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ซึ่งปัญหาลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยวหลายจังหวัด ทางตำรวจไม่ได้เพิกเฉยละเลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง การจับกุมลักษณะนี้จะต้องเป็นความผิดซึ่งหน้า ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นไกด์เถื่อนนั้นจะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวในรถ ตรงนี้เราไม่มีหลักฐาน เมื่อลงจากรถก็จะให้ไกด์ไทยที่มีบัตรเป็นคนพูดคุย ทำให้ยากแก่การจับกุม
ด้าน พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มที่มายืนถือป้ายนั้นอ้างว่าบริษัททัวร์ไม่รับไกด์คนไทยทำงานทำให้ไกด์คนไทยตกงาน ซึ่งได้รวบรวมปัญหาทั้งหมดเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้ละเลยในการแก้ไขปัญหา มีการออกตรวจรวมทั้งจับกุมตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว ฯ มีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีกว่า 100 คดี
ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องไกด์เถื่อนเข้ามาแย่งงานคนไทย ที่ เป็นปัญหาระดับชาติ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะต้องนำไปหารือกับ รมต ท่องเที่ยวให้แก้ไขปัญหา และดำเนินการเป็นนโยบายเป็นรูปธรรม ซึ่งในต่างประเทศเองก็มีการบริการท่องเที่ยว เช่น ที่ประเทศจีนที่เราไปเที่ยว ทัวร์ของเขา จะมีหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย นำลูกทัวร์ไป แต่เมื่อไปถึงเมืองจีน เขาจะมีไกด์จีน 1 คนมาดูแลเราตั้งแต่วันแรกจนจบทัวร์ และแต่ละเมืองจะมีมัคคุเทศก์อีก1 คน มาเพิ่ม เพื่อที่จะอธิบาย ประวัติของสถานที่ท่องเที่ยวแต่แห่งอีก ชอปปิ้ง ก็เป็นของคนจีน
ฉะนั้นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยก็ต้องก็ต้องมีกฏเกณท์เหมือนกัน ว่าเมื่อกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติมา จะมีไกด์ของเขาจากต้นทาง 1 คน เมื่อมาถึงไทย จะมีไกด์ไทยดูแล ตั้งแต่ลงเครื่องจนกลับ 1 คน และ เมื่อมาถึงภูเก็ตก็จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นที่รู้เรื่องประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยว ดูแลอีก 1 คน จึงจะถูกต้อง ไม่ใช่เป็นไกด์จีนทำหน้าที่ทั้งหมด แล้วคนไทยจะได้อะไร แถมอธิบายประวัติศาสตร์ผิดๆ ให้เสื่อมเสียประเทศไทย
รวมทั้งพานักท่องเที่ยวไปซื้อของราคาแพงทำให้เสียภาพพจน์ของเมืองไทย มีคน ได้ประโยชนไม่กี่คน ผลเสียตกประเทศไทย ประเทศไทย ได้แต่ตัวเลข ทุกอย่างเป็นของพวกเขาหมด ธรรมชาติก็ทรุดโทรม ไม่คุ้มค่า แต่ทุกคนหลงประเด็นหลงปลื้มกับตัวเลขนักท่องเที่ยว และคำนวณรายได้ในอากาศ ถือเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนต้องดูแลประเทศไทย และผลประโยชนของคนไทย
- เริ่มแล้ว ! มูลนิธิกาญจนบารมี ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต คัดครองมะเร็งเต้านม...
- ไปชมความน่ารักของน้องๆ “เมียแคท” ได้ที่โซน Jewel of the jungle ชั้น 2 ของ “อควาเ...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมโครงการสืบสานประเพณีสงกรานต์ตำบลไม้ขาว...
- สงกรานต์โนแอลภูเก็ต 2024 คึกคัก ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงาม...
- ตร . ท่องเที่ยว รวบ 2 ไนจีเรียลอบขายโคเคน...
- ชมความน่ารักของ “โคอาติ” ได้ที่โซนสัตว์เลื่อยคลาน “อควาเรียภูเ...
- April 2024 (28)
- March 2024 (46)
- February 2024 (36)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)