แม่ – พี่สาวหนุ่มชาวโปแลนด์ –สาวไทย แจ้งความเพิ่มหลังพบข้อสงสัย ขณะการค้นหายังไร้เงา

โพสเมื่อ : Monday, December 16th, 2019 : 9.17 pm

มารดาสาวไทย พร้อม พี่สาวหนุ่มโปแลนด์ เจ้าแจ้งความให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มผู้เกี่ยวข้องหลังพบพิรุธหลายอย่าง  ขณะที่การค้นหาทั้ง 2 คนยังไร้เงินหลังหายตัวขณะออกไปพายเรือคะยักในทะเล

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 16 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง นาง ชุดารษา ศิริปภากรณ์ มารดาของนางสาว วีรกานต์ ศิริปภากรณ์ อายุ 23ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ที่สูญหายในทะเลหน้าหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะภายเรือคายัคที่หน้าเกาะมันพร้อมกับหนุ่มชาวโปแลนด์  ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ราโอบ สารวัตร(สอบสวน)สภ.ฉลอง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความคนหายไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่ จากทุกภาคส่วนจะระดมกำลังค้นหาตลอด 9 วันที่ผ่านมาแต่กลับไม่พบร่องรอยใดๆ

โดยนาง ชุดารษา มารดา ของนางสาววีรกานต์ ระบุว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนข้อมูลเชิงลึก พยานทั้งหมดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีทั้งในส่วนของกลุ่มเพื่อนชายชาวโปแลนด์ และ เพื่อนสาวชาวไทยที่เช่าเรือคายัคออกไปเที่ยวด้วยกันรวมทั้งหมด 4ลำ แต่กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย 3 ลำ ส่วนเรือลำของบุตรสาวที่นั่งไปกับเพื่อนชายชาวโปแลนด์ กลับหายไป โดยตนเองทราบเพียงว่า เรือของบุตรสาวไม้พายเรือหาย และ เรือเกิดพลิกคว่ำ รวมถึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนพยานแวดล้อมอื่นๆในที่เกิดเหตุ  ภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดที่ให้เช่าเรือคายัค รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าในวันเกิดเหตุมีชายที่หาปลาในบริเวณนั้น ได้ให้การช่วยเหลือบุตรสาวของตนไปแล้วว่าจริงเท็จอย่างไร และชายหาปลาคนดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่

นอกจากนี้มารดาของนางสาววีรากานต์ ยังต้องการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อมูลที่เพื่อนของบุตรสาว ระบุว่า ก่อนหายตัวไปบุตรสาว มีการโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ว่า สายที่มีการโทรเข้า และบุคคลที่ได้สนทนาขอความช่วยเหลือจาก ผู้ประกอบการให้เช่าเรือคายัคเป็นบุตรสาวของตนจริงหรือไม่อย่างไร รวมถึงอยากให้ตรวจสอบว่า ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเช่าเรือคายัค ออกไปลาว 16.00 น.กระทั่งถึงเกิดเหตุราว 18.30 น.นั้นกลุ่มเพื่อนทั้งหมดไปทำกิจกรรมตรงส่วนไหนอย่างไรของเกาะมัน เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุที่ผ่านมาข้อมูลในส่วนนี้ได้รับค่อนข้างน้อยจากเพื่อนของบุตรสาวโดยเฉพาะจากกลุ่มเพื่อนชาวโปแลนด์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานพุ่งเป้าไปที่การค้นหาบุตรสาวและเพื่อนชายคนสนิทเป็นหลักอาจทำให้ไม่ได้สอบสวนข้อมูลเชิงลึก

ประกอบกับในวันที่ 19 ธ.ค.62 ที่จะถึงนี้ กลุ่มเพื่อนชาวโปแลนด์มีกำหนดจะเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากวีซ่าหมด จึงอยากขอให้ทางการเร่งสอบสวนและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแสใดๆ โดยส่วนตัวยังมีความหวังว่าบุตรสาวน่าจะยังมีชีวิตอยู่ตราบเท่าที่ยังไม่พบร่าง

สำหรับเพื่อนกลุ่มชาวโปแลนด์นั้นมารดาของผู้สูญหายระบุว่ามีข้อมูลน้อยมากทราบเพียงว่าเป็นเพื่อนกับบุตรสาวตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศไทย โดยถือวีซ่านักท่องเที่ยว และ มีอาชีพทำงานผ่านทางออนไลน์ หลังเกิดเหตุไม่ได้พูดคุยกันมากนักเนื่องจากไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้( 16 ธ.ค.) ที่สภ.ฉลอง ได้มีพี่สาวของ Mr.Mateusz Juszkiewicz นักท่องเที่ยวชาวโปแลนด์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และ ร่วมแจ้งความเพิ่มเติมด้วย ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายได้พบหน้ากันและเข้าโผกอดกันอย่างโศกเศร้า ขณะเดียวกันมีรายงานเพิ่มเติมว่าว่าในวันพรุ่งนี้(17 ธ.ค.621)ทางสถานทูตโปแลนด์จะเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตเพื่อติดตามการค้นหา ผู้สูญหายชาวโปแลนด์ด้วย