เปิดใจรปภ.อุ้มระเบิดออกจากฝูงชน“ยอมตายคนเดียว เพื่อช่วยให้คนส่วนใหญ่รอด”

โพสเมื่อ : Sunday, August 14th, 2016 : 6.52 pm

เปิดใจหนุ่มหนุ่มใหญ่  รภป. อุ้มระเบิดเพลิงออกจากย่านชุมชน ขอตายคนเดียว ดีกว่าให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอีกจำนวนมากต้องมาเสี่ยง ขณะที่สาวใหญ่ ที่ดูแลร้านจำหน่ายเสื้อผ้าที่ถูกคนร้ายนำระเบิดไปวางระบุเปิดออกดูถึงกับต้องตกตะลึงรีบให้เด็กในร้านนำไปทิ้งในถังน้ำ เพราะเชื่อว่าน้ำจะช่วยให้วงจรระเบิดไม่ทำงาน1471174883323.jpg

จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบนำวัตถุระเบิดเพลิงไปวางที่ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าภายใน ไชน่าทาวน์ พลาซ่า ถนนราชอุทิศ 200 ปี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้ทำทีเข้าไปซื้อของที่ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า และ นำวัตถุต้องสงสัยไปวางไว้ในร้าน แต่โชคดีที่คนดูแลร้านเห็นผิดสังเกตจึงเข้าตรวจสอบ เมื่อพบว่าภายในมีทั้งโทรศัพท์ และสายไฟ ไม้ขีดไฟ และเหล้าแห้งบรรจุอยู่จึงตัดสินใจให้เด็กในร้านนำไปทิ้งในถังน้ำ ที่บริเวณหน้าร้าน ขณะที่ รปภ.ซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุได้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อพบว่ามีการต่อวงจรคล้ายระเบิดจึงตัดสินใจอุ้มถังน้ำขนาด 20 ลิตร ไปทิ้งที่ลานจอดรถ ก่อนแจ้งตำรวจตรวจสอบ1471174886312.jpg

วันนี้ ( 14 ส.ค.) มาเปิดใจ นางสาวสีตลา ตันมาลาทอง ผู้ดูแลร้าน ถึงนาทีพบวัตถุต้องสงสัยมีการต่อวงจร ไว้แล้ว ว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ชาย 2 คน แต่งตัวสวมหมวกปิดบังใบหน้า และสวมแมท รวมทั้งสวมถุงมือ เดินเข้ามาหาซื้อเสื้อผ้าในร้าน เพื่อซื้อเสื้อ โดยมีชายสวมเสื้อแดงเดินไปหาซื้อเสื้อ ส่วนชายสวมเสื้อแขนยาวเดินเข้าไปในร้านก็คิดว่าเข้าไปเลือกเสื้อตามปกติ แต่หลังจากนั้นตนสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าวางไม่เรียบร้อยจึงเข้าไปจัด ขณะที่กำลังจัดเสื้อผ้าก็สังเกตเห็นถุงใส่โทรศัพท์ วางอยู่และมีการนำเสื้อผ้ามาวางทับไว้ ตอนแรกคิดว่าเป็นโทรศัพท์ของน้องพนักงานก็เปิดดูนิดหนึ่ง หลังจากชาย 2 คนที่ทำทีมาซื้อเสื้อผ้าเดินออกจากร้านก็ได้ถามพนักงานทางพนักงานยืนยันว่าไม่ใช่โทรศัพท์ของตัวเอง

จึงตัดสินใจเปิดถุงออกดู แต่ก็ต้องตกตะลึง เพราะสิ่งที่เห็นเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นระเบิด เพราะภายในกล่องมีทั้งโทรศัพท์มือถือ สายไฟที่ต่อพ่วงกับพาวเวอร์แบ็งค์ เหล้าแห้งลักษณะเป็นเจล และไม้ขีดไฟ เมื่อเห็นดังนั้นก็คิดว่าเป็นระเบิดอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจให้พนักงานนำไปทิ้งในถังน้ำที่อยู่หน้าร้าน เนื่องจากคิดว่าน้ำจะช่วยตัดวงจรไฟฟ้าที่ต่อไว้ทำให้ระเบิดไม่ทำงานได้  หลังจากนั้นก็มีคนมาหยิบดูก็เห็นไฟกระพริบๆ จึงได้เรียก รปภ. เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งตนทราบเพียงว่ามีการยกออกไปด้านนอก แต่ก็ไม่ได้ตามไปดู

ขณะที่นายกำธร เกตุแก้ว รปภ.ซึ่งเป็นคนอุ้มถังน้ำที่มีระเบิดอยู่ภายในถังไปวางที่ลานจอดรถห่างจากจุดที่พบประมาณ 800 เมตร เล่าถึงนาทีระทึก ว่า ตอนนั้นกำลังจะกลับบ้านพักที่วิชิตเนื่องจากเลิกงานแล้ว แต่มีคนเรียกว่ามีระเบิดจึงเข้าไปดู เมื่อเห็นวัตถุที่ใส่อยู่ในถังน้ำก็ตัดสินใจในวิธีนั้นเลยว่า ตายเป็นตาย และอุ้มถังน้ำขนาดใหญ่ที่ภายในมีระเบิดออกจากจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะอุ้มไปก็คิดว่าตายคนเดียวดีกว่าที่จะให้คนส่วนใหญ่ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยว และพนักงานขายของในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่กันเป็นจำนวนมากมาตายไปด้วยกัน แต่ก็คิดตลอดเวลาที่อุ้มถังไปตอลดเวลาว่า จะระเบิดตอนไหน ระเบิดตอนไหน

เมื่อไปถึงลานจอดรถก็ ถูกเพื่อนก็ด่าว่าเอามาทำไม ซึ่งตนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร คิดเพียงอย่างเดียวว่าจะเอาออกไปจากพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมากเท่านั้น แต่ก็โชคดีที่ไม่ระเบิดขึ้น  ซึ่งตนทำไปก็ไม่ได้หวังอะไร เพียงแต่ต้องการให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นรอดเท่านั้นถ้าเกิดเหตุระเบิดขึ้น ส่วนตนยอมตายคนเดียว แต่ตายให้มีศักดิ์ศรี ตายอย่างมีคุณค่า  จึงตัดสินใจทำไป  แต่พอมานึกถึงตอนนี้ก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่วันนั้นระเบิดไม่ทำงาน1471174880966.jpg

ขณะที่เวลาเมื่อเวลาประมาณ 16 .00 น. วันนี้  ( 14 ส.ค.) น.ส.เฉลิมลักษณ์  เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปยังศูนย์การค้าไชน่าทาวน์พลาซ่า ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนำวัตถุต้องสงสัย หรือระเบิดเพลิง ไปวางไว้ในร้านจำหน่ายเสื้อผ้า เพื่อมอบเงินรางวัลให้กับนาย กำธร เกตแก้ว เจ้าหน้าที่ รปภ. รวมทั้งนางสาว สีตลา ตันมาลาทอง คนดูแลร้าน และ พนักงานชาวเนปาล ที่ช่วยกันสังเกตจนพบวัตถุต้องสงสัยและนำไปทิ้งในถังน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุระเบิดขึ้น