เปิดตัวโครงการยักษ์ “Mont Azure” กว่าหมื่นล้านที่กมลา

โพสเมื่อ : Monday, December 5th, 2016 : 2.26 pm

กลุ่มทุนไทย “นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้” ร่วมกัลป์กลุ่มทุ่นในฮ่องกงและสิงคโปร์ ขึ้นโครงการยักษ์ Mont Azure ในพื้นที่กมลา จ.ภูเก็ต ทั้งรีสอร์ท ที่พักระดับไฮเอนด์ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เพราะภูเก็ตยังน่าลงทุน ประเดิมโครงการแรก ทวินปาล์มส์ เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ คอนโดหรูมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท

img_9989

นายเฮนรี่ ยัง Director of Marketing โครงการ Mont Azure เปิดเผยในโอกาสจัดงานเปิดตัวโครงการ Mont Azure ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า โครงการดังกล่าว มีทั้งรีสอร์ท และที่พักอาศัยระดับ Super Hi – end ประกอบด้วย โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว, Beach Club, Condominium, Hillside Villa และ Hillside Resort บนพื้นที่รวมประมาณ 450ไร่ แต่ในจำนวนดังกล่าวได้กันพื้นที่ซึ่งมีความสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไว้เป็นพื้นที่โซนอนุรักษ์ประมาณ 200 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนของโครงการทั้งหมดกว่าหมื่นล้านบาท

โดยเป็นการร่วมทุนของ 3 หุ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ กลุ่มนารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ (HUAKEE GROUP) ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ในไทย กลุ่มกองทุน อาร์ช แคปปิตอล (ARCH CAPITAL) บริษัทอสังหาฯ ฮ่องกง และกลุ่มกองทุน ฟิเลียน แคปปิตอล (PHILEAN CAPITAL) เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ ในเครือ พอนเทียค แลนด์ กรุ๊ป (Pontiac Land Group) ซึ่งนับว่าเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมาตรฐานการทำงานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นและจุดยืนมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้วยมาตรฐานระดับสากล

img_9985

“ที่มาเลือกลงทุนที่ภูเก็ต เพราะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ทั้งนี้ตามแผนงานที่วางไว้จะพัฒนาโครงการต่างๆ เต็มทั้งพื้นที่ภายใน 5 ปีนับจากนี้” นายเฮนรี่ ยัง กล่าวและว่า

เฟสแรกของการพัฒนา มีชื่อว่า ทวินปาล์มส์ เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เป็นคอนโดมิเนียมหรูมีจำนวน 75 ยูนิต บนเนื้อที่ 9 ไร่เศษ ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นจาก 8 ล้าน ถึง 93 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,200 ล้านบาท ขณะนี้มียอดการขายไปแล้วกว่า 41% ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 40% เป็นลูกค้าคนไทย ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ ทั้ง สวีเดน ออสเตรเลีย ฮ่องกง เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าที่วางไว้นั้นจะเป็นกลุ่มผู้ที่ทำงานอยู่ในภาคพื้นเอเชีย เพราะเป็นกลุ่มที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในกลางปี 2560 และลูกค้าจะสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ประมาณปลายปี 2561

img_9996