หนีไม่พ้นโจรต่างชาติชาวรัสเซียก่อเหตุทุบผนังร้านทองในป่าตองตร.จับแล้ว

ในที่สุดก็หนีไม่พ้น ผู้ต้องหาชาวรัสเซีย ก่อเหตุทุบผนังร้านทองในพื้นที่ป่าตอง หวังขโมยทองคำ ตร.ขอศาลอนุมัติหมายจับแล้ว เบื้องต้นรับเป็นบุคคลตามหมายจับ ขณะที่ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายทุบทำลายฝาผนังบริเวณด้านหลังของร้านทองเยาวราชนำโชค ถ.พระเมตตา (ผังเมืองสาย ก.)  ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และเข้าไปทุบทำลายกล้องวงจรปิด รวมทั้งรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้านพยายามทำลายตู้นิรภัยสำหรับเก็บทรัพย์สินของร้านทองที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ  ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์  อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง, พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง พ.ต.ต.ตะวัน เลขมาศ สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.ท.บุญเสริม ชำนาญกิจ รอง สว.สส.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ป่าตอง และ ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้

ล่าสุด วันนี้ ( 10 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายดิมิทรี ชีวาสเตียนอฟ (MR.DMITRII SEVASTIANOV ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 587/2559 ลงวันที่ 10 กันยายน 2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคลลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้น เข้าไปด้วยประการใดๆ ในเวลากลางคืนและทำให้เสียทรัพย์ ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย” โดยเหตุเกิดเมื่อ วันที่ 9 ก.ย.2559 เวลาประมาณ 03.43-06.04 น. ร้านทองเยาวราชนำโชค ถ.พระเมตตา (ผังเมืองสาย ก.) ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2559 เวลาประมาณ 05.56 น. มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน ได้ลอดผ่านผนังซึ่งถูกทุบทำลายเข้ามาในบริเวณร้านทองที่เกิดเหตุและได้พยายามใช้กระดาษลังซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุปิดบังใบหน้าตนเอง จากนั้นได้เข้าไปทุบทำลายกล้องวงจรปิดของร้านที่เกิดเหตุจนเสียหายจำนวน 1 ตัว และพบว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้ายได้เข้ามาในบริเวณเคาท์เตอร์จำหน่ายทองคำและรื้อค้นทรัพย์สินในบริเวณดังกล่าว จนกระทั้งเวลาประมาณ 06.02 น. คนร้ายได้กลับเข้าไปที่บริเวณด้านหลังร้านทองที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบโดยละเอียดภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายดังกล่าวมีรูปร่างสูงใหญ่คล้ายคนต่างชาติ ดวงตาสีลักษณะคล้ายชาวยุโรป มีรอยสักที่แขนท่อนบนทั้งสองข้าง ผมสั้นเกรียน สวมถุงมือ สมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้นมีสัญลักษณ์คล้ายเครื่องหมายการค้าที่บริเวณขากางเกงข้างขวา รองเท้าหุ้มส้นและใช้เหล็กตันยาวลักษณะคล้ายแชลงเป็นอุปกรณ์ในการทำลายผนังและกล้องวงจรปิด

และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.04 น. มีชายลักษณะตำหนิรูปพรรณและการแต่งกายตรงกับคนร้ายสวมเสื้อกันฝนแบบบาง เดินออกมาจากบริเวณอาคารที่กำลังก่อสร้างซึ่งอยู่ติดกับร้านทองที่เกิดเหตุและเลี้ยวขวาและเดินข้ามถนนไปตามฟุตบาทของถนนพระเมตตา มุ่งหน้าไปทางแยกนาในซอย 8 จากนั้นพบว่าเวลาประมาณ 06.09 น. คนร้ายได้เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปในบริเวณโรงแรมบริเวณ ถ.พระเมตตา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และหายเข้าไปในบริเวณโรงแรมดังกล่าว

ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเส้นทางของคนร้ายทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดคนร้ายได้เดินออกมาจากบริเวณโรงแรม จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตาม จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลอนุมัติหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุม MR.DMITRII SEVASTIANOV  สัญชาติรัสเซีย ดังกล่าว ซึ่ง มีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับคนร้าย มีรอยสักที่แขนท่อนบนทั้งสองข้าง และมีตำหนิรูปพรรณอื่นๆตรงกับคนร้าย ขณะที่ภรรยาของผู้ต้องหา ซึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยคันพบว่ามีรูปพรรณตรงกับผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุ

อย่างไรก็ตามหลังการจับกุม นายดิมิทรี ชีวาสเตียนอฟ ( MR.DMITRII SEVASTIANOV ) รับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกันกับผู้ต้องหาที่มีชื่อในหมายจับและยังไม่เคยถูกจับกุมหรือเข้ามอบตัวตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด และนายดีมิทรี ชีวาสเตียนนอฟ (MR.DMITRII SEVASTIANOV ) อ้างว่าภรรยา ไม่ได้มีส่วนในการกระทำผิดในครั้งนี้หลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่ นำตัวส่ง พงส.สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป