สุดหวาดเสียว นร.ปีนขึ้นสะพานลอยบันไดแหว่งหลังถูกรถสิบล้อชน ผอ.แขวงเร่งซ่อม

โพสเมื่อ : Monday, December 16th, 2019 : 8.56 pm

สุดหวาดเสียว นร.ปีนขึ้นสะพานลอยบันไดแหว่งหลังถูกรถสิบล้อชน ผอ.แขวงทางหลวงภูเก็ตสั่งปิดป้ายงดใช้ว เผยซ่อมนาน 3 สัปดาห์ ประสานตร.จราจรหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อน เพราะมีผู้ใช้สะพานลอยจำนวนมาก

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 16 ธ.ค.) โซเชียลได้แชร์ภาพเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ของโรงเรียนมุลลิมวิทยา ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต กำลังใช้สะพานลอยที่ชำรุดเพราะรถสิบล้อชนจนได้รับความเสียหายทำให้เด้กนักเรียนต้องเดินขึ้นสะพานลอยในลักษณะหวาดเสียว เนื่องจากบันไดไม่มีราวคั้น เพื่อข้ามถนนไปยังโรงเรียน จนมีการเรียนร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขก่อนจะเกิดเหตุสลดขึ้น

 

จากการสอบถามนางสาว เพ็ญผกา มุ่งกิจ อายุ 34 ปี พร้อมด้วย นาง ลัดดา เจริญจิต อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นมารดา เปิดเผยว่าทั้ง 2 พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเจ้าฟ้าการ์เด้นโฮม เกาะแก้ว ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนมุสลิมวิทยา โดยมีลูกหลานๆที่ต้องมารับส่งที่โรงเรียนทุกเช้าและเย็นจำนวน 6 คน โดยปกตินางลัดดา มารดา จะเป็นผู้เดินมาส่งเด็กๆ โดยจะใช้สะพานลอยแห่งนี้เป็นหลัก แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่ได้ใช้จุดดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าเสี่ยงอาจจะเกิดอันตราย

 

แต่ก็มีเด็กๆบางคนปีนข้ามไปเอง  บางส่วนข้ามมาจากฝั่งโรงเรียนมุสลิม เพื่อไปโรงเรียนบ้านบางคู ทำให้เด็กๆที่ใช้สะพานลอยดังกล่าวอยู่ในภาวะเสี่ยง อย่างน่าหวาดเสียว ส่วนบุตรหลานของตนนั้นนางสาว เพ็ญผกา ต้องพาเด็กๆขึ้นรถไปส่งหน้าโรงเรียนทำให้ไปทำงานสาย ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ทีเกี่ยวข้องเร่งเข้ามาซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก

 

ขณะเดียวกันอยากขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ผู้ปกครองและเด็กๆสามารถข้ามบนถนนได้ชั่วคราวช่วงเวลาก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียนในจุดที่ปลอดภัยเพื่อลดความเดือดร้อน   

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ ( 16 ธ.ค.) นายสมหวัง โลหณุต แขวงทางหลวงภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้องหลังจากได้สั่งการเร่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ฯนำอุปกรณ์มาปิดกั้นพร้อมติดประกาศห้ามใช้

 

โดยนายสมหวัง กล่าวว่า ภายหลังลงพื้นที่ว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปิดกั้นงดการใช้สะพานลอยเป็นการชั่วคราว เพื่อรอการซ่อมแซม นอกจากนี้ยังได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิด และจะเร่งทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 3 สัปดาห์ และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ในส่วนที่เสียหายเป็นบันไดของสะพานลอยจากพื้นไปจนถึงชานพักด้านบนรวมประมาณ 13 ขั้น โดยไม่ได้กระทบกับโครงสร้างหลักตัวอื่นๆ

 

การแก้ปัญหาเบื้องต้นในระหว่างรอการซ่อมแซมนั้นได้มีการประสานกับทางตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ในการมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเช้า – เย็น ซึ่งมีนักเรียนและผู้ปกครองจะต้องข้ามถนนทั้งสองฝากเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรร่วมกับ อพปร.ของ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว รวมทั้งประสานกับทางโรงเรียนในการมาจัดนักเรียนเป็นกลุ่มๆ เพื่อส่งข้ามถนน  พร้อมกันนี้ก็จะมีการทำป้ายแจ้งเตือนให้รถที่สัญจรไปมาชะลอความเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของขาเข้าเมือง เนื่องจากรถเพิ่งผ่านไฟแดงจะมีการใช้ความเร็ว

สำหรับเหตุการณ์รถบรรทุกพุ่งชนสะพานลอยดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ  11.20 น.ของวันที่ 14 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกชนสะพานลอย ก่อนเฉี่ยวชนรถที่สัญจรไปมา เหตุเกิดบริเวณถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก จุดสะพานลอย หน้าโรงเรียนมุสลิม วิทยาภูเก็ต ต. เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต

จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจราจรช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรเนื่องจากการจราจรติดขัด ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก พบ ขั้นบันไดสะพานลอยมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย มีเศษวัสดุหล่นกระจัดกระจาย ที่บริเวณรินเกาะกลางถนนฝั่งขาออก พบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กธ 4113 ภูเก็ต จอดหันหัวย้อนศร(หันเข้าเมือง) สภาพท้ายรถด้านซ้ายพังยับเยิน ส่วนที่สะพานลอยอีกด้าน ซึ่งเป็นถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้าตัวเมืองภูเก็ต พบรถบรรทุกสิบล้อ ฮีโน่สีขาว ทะเบียน 70 – 4240 ติดข้อความสติ๊กเกอร์ว่า บุญฤทธิ์ ที่ด้านหน้า จอดอยู่ริมสะพานลอย สภาพหน้ารถด้านซ้ายพังเสียหาย ทั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบเบื้องต้นทราบว่า รถบรรทุกสิบล้อขับจากฝั่งตัวเมืองภูเก็ต มุ่งหน้าออกนอกเมือง เมื่อมาถึงจุดดังกล่าวได้พุ่งชนสะพานลอยก่อนพุ่งชนรถเก๋ง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จากนั้นรถบรรทุกได้พุ่งขึ้นเกาะกลางถนนข้ามไปยังอีกฝั่ง ซึ่งเคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวขับมาตามปกติ ก่อนค่อยเข้าข้างทางและพุ่งชนสะพานลอยจนได้รับความเสียหาย โดยไม่มีการเบรกแต่อย่างใด จึงความว่าคนขับจะหลับใน จึงดำเนินการตามกฏหมายต่อไป