สุดท้ายโดนรวบแล้ว! 2 โจ๋แสบ ใช้มีดบุกชิงเงินร้านสะดวกซื้

โพสเมื่อ : Sunday, December 15th, 2019 : 10.00 am

สุดท้ายโดนรวบไม่ทันข้ามวัน 2 โจ๋แสบใช้มีดบุกข่มขู่ชิงเงินพนักงานร้านสะดวกซื้อสาขาราไวย์ ล่าสุดถูกรวบคาบ้านพัก สารภาพต้องการนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ

จากกรณีเมื่อ วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ก่อเหตุใช้อาวุธมีดข่มขู่พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาขาถนนราไวย์ ถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เงินสดไปประมาณ 790 บาท หลังก่อขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้วเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกัน (14 ธ.ค.62) โดยเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 17/6 ซ.บางแร่ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ ที่พักคนงานไม่มีเลขที่ ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Scoopy สีชมพู-ดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 กฆ 92 นครศรีธรรมราช เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน สวมใส่ในการก่อเหตุ และอาวุธมีด ยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 เล่ม

หลังจากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต โดยมี ว่าที่ พ.ต.อ.บัณฑิต ขาวสุธรรม ผกก.สส.ภจว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.สนั่น จันทร์รงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ร่วมกันสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายสหรัฐ ชิวยัง อายุ 18 ปี และ นายบิ๊ก (นามสมมุติ) จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในเบื้องต้น ทราบว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยนายบิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็นผู้ใช้อาวุธมีด บุกเข้าไปก่อเหตุข่มขู่ชิงเงิน ก่อนจะวิ่งมาขึ้นรถที่มี นายสหรัฐ ชิวยัง จอดรออยู่ที่ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังจากก่อเหตุเสร็จได้ขับรถหลบหนี ไปที่บ้านเลขที่ 17/6 ซ.บางแร่ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของนายบิ๊ก (นามสมมุติ)โดยไปเปลี่ยนชุดและทิ้งของกลางที่ใช้ก่อเหตุไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว

หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน และ ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้ในภายหลัง ทั้งนี้สาเหตุของการก่อเหตุนั้นเพื่อต้องการนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เเจ้ง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธ(มีด) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อกล่าวหา ร่วมกันพาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป