สุดทน ! นายกเทศมนตรี กะรน –ราไวย์ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านบุกจี้ผู้ว่า ซีลทุกตำบลหยุดโควิด

โพสเมื่อ : Friday, April 3rd, 2020 : 4.42 pm

 สุดทน ! นายกเทศมนตรี กะรน –ราไวย์  พร้อมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน บุกจี้ผู้ว่า ออกประกาศ ซีลทั้ง 8 ตำบล ป้องกันคนเคลื่อนย้าย หลังพบนักท่องเที่ยวทยอยย้ายออกจากป่าตอง พร้อมขอทราบข้อมูลคนป่วยแต่ละพื้นที่ เพื่อชี้แจงประชาชน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 3 เม.ย.) นายอรุน โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วยนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันต.กะรน พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร สมาชิกเทศบาลทั้ง 2 แห่ง และ ผู้ใหญ่บ้านจากทั้ง 2 ตำบล ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดออกประกาศปิดพื้นที่ทั้ง 8 ตำบล เพื่อแก้ปัญหาการย้ายคน และลดการแพร่ระบาด โดยมีนายวิกรม จากที ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้แทนในการรับมอบ และรับฟังข้อเสนอ

นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าว การเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 พื้นที่ได้มีการประชุมร่วมกันทั้งในส่วนของผู้นำชุมชน ผุ้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้ง 2 ตำบล เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งทุกวันเหมือเรากับวิ่งตามโรค ทำให้การแพร่ระบาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และนำวันจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากป่าตอง ก็เริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่กะรน และราไวย์แล้ว จึงอยากให้ทางจังหวัดดำเนินการอย่างจริงจัง

ทางตำบลราไวย์ และ กะรน จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศปิดพื้นที่ทั้ง 18 ตำบล เพื่อที่จะซีลพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการเข้าออกระหว่างตำบล ถ้าทำได้เชื่อว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่เคลื่อนย้ายจากป่าตองเข้ามาพักในพื้นที่กะรน และ ราไวย์แล้วจำนวนมาก ซึ่งกระจายไปตามโรงแรมและบ้านเช้า ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ภูเก็ตไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้

นอกจากนั้นในส่วนของร้านสะดวกซื้อ ร้านของชำ ทางตำบลราไวย์ และ ต.กะรน ขอให้ประกาศปิดตั้งแต่เวลา 20.00 น. – 05.00 น. เพื่อให้คนออกจากบ้าน ที่พักให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินเข้าออกร้านสะดวกซื้อโดยไม่มีการป้องกันตัวเอง จึงอยากให้จังหวัดออกมาตรการเหล่านี้มาควบคุมดูแล

นอกจากนั้นสิ่งที่ผู้นำท้องถิ่นต้องการคือ การเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยชื่อ แต่ขอให้เปิดเผยในส่วนของพื้นที่ว่าอยู่จุดใหนอย่างไร เพราะตอนนี้ข้อมูลเหล่านั้นถูกปิดกั้น ทำให้ไม่สามารถแจ้งคนในพื้นที่ให้ระวังป้องกันตัวเองได้ แม้แต่มีการพบผู้ป่วยในโรงแรมก็ไม่มีการสั่งปิด ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และอยากให้เปิดเผยข้อมูลกับท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่

ขณะที่นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า สิ่งที่ทั้ง 2 พื้นที่ต้องการคือการซีลพื้นที่เข้าออกทั้ง 2 ตำบล เพื่อไม่ให้มีการเข้าออกของคน และนักท่องเที่ยว ถ้าทำได้เร็วเราก็จะสามารถจบเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ปัญหานี้ไม่จบเพราะคนยังข้ามไปข้ามมาได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังอยากให้รวมไปถึงเรือหางยาวนำเที่ยวที่ขณะนี้ยังวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวและ และรวมถึงรถแท็กซี่และและรถตู้ที่ควรจะให้หยุดวิ่งได้แล้ว

ขณะที่นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน กล่าว ว่า สิ่งที่ต้องการเรียกร้องและขอให้จังหวัดดำเนินการคือการประกาศปิดพื้นที่ทุกตำบลทั้ง 18 ตำบล แต่ถ้าทำไม่ได้ขอปิดในส่วนของพื้นที่ที่พร้อมก่อนและเป็นพื้นที่ทีมีการเสี่ยงการแพร่ระบาด เพราะถ้าปิดแค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งก็ไม่สามารถหยึดโรคระบาดได้ แต่ถ้าทำทุกตำบลพร้อม ๆ กัน หลังปิดพื้นที่ก็ให้ทุกตำบลเข้าทำความสะอาดพื้นที่ คัดกรองคน แยกแยะคนป่วย คนเสี่ยง คนเฝ้าระวัง และคนปกติออกจากกัน

หลังจากนั้นอาจจะเลือกเกาะใดเกาะหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตที่มีโรงแรมที่พักนำคนที่จะต้องเฝ้าระวังไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยรัฐจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้ หลังครบ 14 วันถ้าไม่ป่วยก็กลับขึ้นเกาะใหญ่และกลับไปอยู่บ้านของตัวเองได้ ตนเชื่อว่าถ้าทำได้แบบนี้ภูเก็ตจะรู้เวลาว่าเราสามารถหยุดโรคนี้ได้เมื่อไหร่ แต่ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้เชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคไม่มีวันจบ แต่สิ่งที่จะจบคือจังหวัดภูเก็ต

ขณะที่นายวิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะนำข้อเสนอของทางตำบลกะรน และราไวย์ ไปนำเสนอกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด และซึ่งขณะนี้ในส่วนของป่าตองคืนนี้น่าจะมีการประกาศเรื่องซีลป่าตองออกมา ซึ่งอาจจะมีการประกาศซีลพื้นที่ ตำบลราไวย์ และตำบลกะรนออกมาด้วยก็ได้