สาวร้องอบจ.เอื้อผู้เช่าบางราย ร้องไปคดีไม่คืบ หันหน้าพึ่งสื่อ เตรียมร้องนายกรัฐมนตรี ที่มาจ.ภูเก็ต

โพสเมื่อ : Wednesday, September 14th, 2016 : 4.48 pm

สาวเจ้าของร้านขายสินค้าในอ่าวฉลอง ร้องเรียน อบจ.เอื้อให้ผู้เช่าอีกฝ่าย เปิดสัญญาให้ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเหมือนกัน ทั้งที่ผู้บริหารชุดของ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ (สมัยนั้น) ห้ามให้ขายสินค้าชนิดเดียวกัน จึงอยู่ร่วมกันสันติ แต่ขณะนี้ผู้บริหารรายใหม่เปิดให้คู่กรณีเปิดขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเหมือนกัน แต่ห้ามให้ตนขายอาหารและเครื่องดื่มที่เหมือนคู่กรณี เคยร้องเรียนหลายหน่วยงานทั้งศูนย์ดำรงธรรม ฯลฯ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข จึงหันหน้าพึ่งสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียง เตรียมบุกยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 16 ก.ย.นี้ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด

IMG_9853

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 ก.ย.นี้ ที่ชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต นางสาวอารยา จอมประดิษฐ์ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต เดินทางมาร้องเรียนเรื่องขอความเป็นธรรมเนื่องจากสัญญาเช่าพื้นที่ขายสินค้าในอาคารพักคอย ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองจังหวัดภูเก็ต เป็นการเอื้อให้ผู้เช่าพื้นพื้นที่อีกฝ่าย โดยก่อนหน้านี้ในสัญญาเช่าระบุให้คู่กรณีขายอาหารและเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ. ได้เสียชีวิตลง ก็ได้มีการทำสัญญาเช่าใหม่ ในสัญญาเช่าฉบับใหม่ได้ระบุให้ผู้เช่าคู่กรณีที่อยู่ติดกันขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเพิ่มอีก 1 รายการ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในสัญญาเช่าก็ระบุชัดเจนว่าห้ามขายสินค้าที่มีลักษณะเหมือนกัน ทำให้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จากสัญญาเช่าฉบับใหม่ ตนเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต-องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต-ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ทำให้ตนจึงเดินทางมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวอีกครั้งหนึ่งในวันนี้

IMG_9846

นางสาวอารยา จอมประดิษฐ์ เปิดเผยกับทีมข่าวภูเก็ตฮอทนิวส์ว่า ตนได้เข้าไปขายสินค้าในอาคารพักคอย ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตั้งแต่เมื่อปี 2545 ซึ่งในขณะนั้นได้เข้ามาช่วยขายสินค้าให้แก่ร้านหมี่ต้นโพธิ์ จากนั้นเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงปี 2547 เจ้าของผู้เช่ารายเดิมได้ยกเลิกสัญญา ตนจึงได้ยื่นเอกสารขอทำสัญญาเช่ากับ อบจ.จนถึงปัจจุบัน โดยล่าสุดเซ็นต์สัญญาเช่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2559 โดยสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พ.ย.2561 ซึ่งในการเซ็นต์ล่าสุด อบจ.มีการเอื้อให้ผู้เช่าพื้นที่อีกฝ่ายหนึ่งที่มีพื้นที่ติดกันขายสินค้าเพิ่มมาอีก 1 รายการ คือสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากันหลายครั้งแล้ว แต่ทางนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ (นายก อบจ.ในสมัยนั้น) ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้แต่ละร้านแยกประเภทสินค้าในการขาย แต่ในสัญญาล่าสุด อบจ.ที่มีปลัด อบจ.รักษาการนายก อบจ.ได้เปิดให้พื้นที่เช่าของคู่กรณีเปิดขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเพิ่มอีก 1 รายการ ทำให้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสัญญาเช่าของ อบจ. ดังกล่าว ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อล่วงเลยมา 4 เดือนแล้ว ทำให้ตนได้รับความเดือนร้อนอย่างหนักยอดขายลดลงทุกวัน ถูกขายสินค้าตัดราคาและแนะนำลูกค้าให้มาคืนสินค้าของร้านแล้วแนะนำลูกค้าไปซื้อสินค้าของผู้เช่าคู่กรณี บ้างก็เอาสินค้ามาบดบังหน้าร้านของตนเพื่อไม่ให้ลูกค้าเข้ามาในร้านของตน แถมพูดจาเยาะเย้ย ถากถาง ยั่วยุให้ตนโมโห ทำให้ตนเสียสุขภาพจิตและเกิดการทะเลาะกันหลายครั้ง ตนได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ถูกถูกเพิกเฉยไม่ได้รับการเหลียวแลที่เป็นธรรม จึงเดินทางมาพึ่งสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้หน่วยงานราชการลงมาแก้ไขปัญหาโดยไม่เอนเอียง เพื่อให้ตนได้รับความเป็นธรรมเหมือนอย่างเช่นในอดีตที่ต่างฝ่ายต่างขายอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นอกจากนั้นได้ทำเอกสารเพื่อเดินทางไปร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ขณะที่เดินทางมาพบปะประชาชนและประชุม กรอ.ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตในวันที่ 16 ก.ย.นี้ด้วย ซึ่งคิดว่าหากหน่วยงานทุกหน่วยงานในจังหวัดภูเก็ตที่เคยไปร้องเรียนแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จำเป็นต้องขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี

IMG_9849

ในส่วนของการสัมภาณ์ผู้เกี่ยวข้องของ อบจ.ภูเก็ตเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกพาดพิงนั้น ทีมข่าวภูเก็ตฮอทนิวส์ได้พยามโทรติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งในส่วนของ อบจ.จะชี้แจงว่าอย่างไรนั้น ทางทีมงานของ www.phukethotnews.net จะเสนอให้ทราบต่อไป