สาวร้องขอความช่วยเหลือ อ้างตกเป็นแพะคดีชิงทรัพย์ ที่ตรัง

โพสเมื่อ : Friday, February 10th, 2017 : 5.18 pm

สาว ร้องขอความช่วยเหลือจากยุติธรรมจังหวัด หลังตกเป็นจำเลยในคดีชิงทรัพย์ อ้างตกเป็นแพะ ทั้งๆที่ไม่เคยเดินไป จ.ตรัง โดยเหตุเกิดที่จังหวัดตรังเมื่อปี 2554 ศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง พิพากษาตัดสินให้จำคุก 10 ปี และอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์นางสาว ปวิตรา กองกำพล อายุ 32 ปี หรือ พลอย ชาวจังหวัดราชบุรี ประกอบอาชีพรับจ้างนวดสปา อยู่ใน ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต นำเอกสาร หลักฐาน พร้อมด้วย หนังสือ เข้าร้องขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือ ต่อนางสาว ชญาทิพย์ จิตหลัง ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ช่วยต่อสู้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์ หลังตกเป็นจำเลยในในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อกายหรือใจ” โดยทรัพย์ดังกล่าวประกอบด้วยสร้อยคอและพระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง และมีทราบว่ามีหมายจับและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต จับกุมเมื่อปี 2559 ซึ่งขณะนี้คดีในส่วนของศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง มีคำตัดสินพิพากษาให้จำคุก.เป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2559 และกำลังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์

โดย นางสาวปวิตรา กล่าวว่า ตนเองตกเป็นแพะในคดีดังกล่าว เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุตนเองทำงานอยู่ที่ร้านสปาในพื้นที่กะรน และไม่เคยเดินทางไปจังหวัดตรังซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุแต่อย่างใด โดยขณะนี้คดีของตนอยู่ในศาลชั้นอุทธรณ์ ตนเดือดร้อนมากต้องดูแลลูกที่ยังเล็กและไม่มีเงินในการว่าจ้างทนายความเพื่อต่อสู้คดี จึงอยากขอเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากทางยุติธรรมจังหวัด ช่วยตรวจสอบหลักฐานในคดีนี้ให้ใหม่ โดยเฉพาะภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหาดสำราญจังหวัดตรัง นำไปใช้เป็นหลักฐานชี้ว่าตนเป็นผู้กระทำความผิด เนื่องจากหญิงสาวที่ปรากฏในภาพดังกล่าว ไม่ใช่ตนเอง รวมถึงขอให้ตรวจสอบวัตถุพยานอื่นๆ อีกครั้ง ทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่อ้างว่าตนเองใช้ติดต่อกับผู้เสียหาย รวมถึงลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยร้องขอให้ตรวจสอบวัตถุพยานดังกล่าว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้หากเป็นไปได้ตนอย่างขอร้องให้ผู้เสียหายในคดีนี้มาพบกับตนเองสักครั้ง เนื่องตนและผู้เสียหายไม่เคยเจอมาก่อน แม้กระทั่งวันที่มีการไต่สวนบนชั้นศาล
ผู้เสียหายก็ชี้ตัวผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เท่านั้น นอกจากนั้นยังมีหลักฐานอื่นๆอีกหลายอย่าง รวมถึงลายสักบนข้อมือ ซึ่งในภาพของหญิงสาวที่ก่อเหตุไม่มีรอยสัก แต่ตนมีรอยสักที่มือตั้งแต่อายุ 18 ปี จึงอยากขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยเนื่องจากตนมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

สำหรับคดีดังกล่าว ตำรวจสถานีภูธรหาดสำราญ จังหวัดตรัง ได้ขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ออกหมายจับนางสาวพลอย เมื่อปี 2554 เนื่องจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ว่า ถูกพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ชื่อ พลอย มอมยา ขณะที่ดื่มกินกันอยู่ภายในรีอสอร์ต ก่อนจะชิงทรัพย์เป็นพระเครื่องและสร้อยคอทองคำ รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท จนกระทั่งตำรวจมาจับกุมตัวนางสาวพลอยที่ระบุว่า กำลังเป็นแพะในคดีนี้ได้ที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2559 ในขณะที่ไปติดต่อราชการในพื้นที่ตำบลกะรน.

อย่างไรก็ตาม หลังรับเรื่องร้องเรียน ทางยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระบบกองทุนช่วยเหลือของยุติธรรมจังหวัดแล้ว เพื่อตั้งทนายความให้ความช่วยเหลือทางด้านคดีให้นางสาวปวิตราต่อไป.