รังวัดแนวเขตที่ดิน 178 ไร่ เลพัง-ลายัน เตรียมประกาศเป็นที่ นสล.

โพสเมื่อ : Monday, January 8th, 2018 : 6.14 pm

อบต.เชิงทะเล –พร้อมที่ดินถลาง จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่รังหวัดแนวเขตที่ดิน 178 ไร่ หาดเลพัง – ลายัน หลังศาลตัดสินให้ตกเป็นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อทำบัญชีแนบท้ายขอประกาศเป็นที่ดิน นสล.ขณะที่ผู้ครอบครองที่ดินปัจจุบันยื่นหนังสือคัดค้างอ้างมีเอกสารสิทธิ

เมื่อเวลา  10.30 น.วันนี้ (  8 ม.ค.) นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.เชิงทะเล) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  พร้อมด้วย นายยงยุทธ กาญจนานุรักษ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ,พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร 25 พัน 2 ชุดรักษาความสงบ จ.ภูเก็ต, นายจิรยุทธ์ จิรสุนทรกุล กำนันตำบลเชิงทะเล,  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

 

นำกำลังเจ้าหน้าที่รังวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 5, ทัพเรือภาคที่ 3, กรมป่าไม้,ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล ลงพื้นที่บริเวณหาดเลพัง-ลายัน  เพื่อรังวัดแนวเขต ที่ดิน แปลงที่ดินเนื้อที่ 178 ไร่ มูลค่าร่วม 14,000 ล้านบาท หลังศาลมีคำพิพากษาให้ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์  และก่อนหน้านี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการนำป้ายประกาศเตือนให้ผู้ที่ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวทำการรื้อรื้ออาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ออกไปจากพื้นที่เพื่อจะนำมาพัฒนาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการรังวัดได้มีนายกนกพล สมรักษ์ อายุ 50 ปี  ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงร้านโทนี่เรสทัวรองส์ เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลจังหวัดภูเก็ต ตัดสินให้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ พร้อมทนายความ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการรังวัดที่ดิน ซึ่งเนื้อหาบางส่วนในหนังสือคัดค้าน สรุปว่า ที่ดินแปลงนี้ มีเอกสารสิทธิเป็นหนังสือแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เลขที่ 7 และ 17 เป็นการแสดงสิทธิครอบครองมาแต่เดิม ไม่ใช่ที่สาธารณะ เช่นเดียวกับผู้ครอบครองที่ดินอีกรายที่มายื่นหนังสือคัดการการรังวัดที่ดินเช่นกัน โดยระบุว่าที่ดินที่ตนเองครอบครองเป็นการครอบครองตามเอกสารสิทธิ์ และตนไม่ใช่ 6 รายที่ถูกศาลตัดสินให้ออกจากพื้นที่

 

แต่อย่างไรก็ตามหลังจากมีการยื่นหนังสือคัดค้านทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงการรังวัดแนวเขตในครั้งนี้จะมีการรังวัดในส่วนของเขตพื้นที่รอบนอกจะไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีการอ้างเอกสารสิทธิครอบครองแต่อย่างใด หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้รังวัดแนวเขตที่ดิน ดังกล่าวและมีการนำหลักเขตมาปักจนเสร็จสินกระบวนการ

นายยงยุทธ กาญจนานุรักษ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง กล่าวถึงการลงรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว ว่า  เป็นการรังวัดเพื่อทำแผนที่ประกอบการทำพื้นที่สงวนหวงห้ามเนื้อที่ 178 ไร่ ตามคำพิพากษาของศาลของศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อประกอบการพิจารณาเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้ความเห็นชอบ และส่งเรื่องให้คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติอนุมัติต่อไป

 

โดยการอนุมัติที่ดินสงวนหวงห้ามแปลงนี้ ต้องอาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 9 พ.ศ.2529  โดยในขั้นตอนที่ 10 และ 11 นั้นต้องมีแผนที่แนบท้าย เพื่อให้ทราบอาณาเขตที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร เมื่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินฯ เห็นชอบก็จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาสงวนหวงห้ามเพื่อประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป

ส่วนกรณีที่ยังมีประชาชนบางรายยืนยันการครอบครองอยู่นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้ศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้วว่า เป็นที่ดินของรัฐ โดยให้โจทก์ 6 คน และบริวาร รื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ออกไป ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

ขณะที่นามาแอน สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล กล่าวเสริม ว่า กรณีที่มีผู้ครอบครองบางรายยังคงอยู่ในพื้นที่นั้นคงต้องไปดูในคำพิพากษา ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน ก็มีการระบุบทลงโทษไว้เช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีหมายบังคับคดีอีก 1 ชุด มาปิดประกาศเพื่อแจ้งให้ทราบ ซึ่งหลังจากมีการปิดหมายบังคับคดีหากยังมีการตรวจสอบพบว่า มีการดื้อดึงครอบครองพื้นที่อยู่อีกก็จะมีการประชุมเพื่อดำเนินการในขั้นตอนของการใช้หมายบังคับคดีภายใน 30 วัน จากนั้นก็จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อนำเอาที่ดินแปลงดังกล่าวกลับมาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป