รอง.ผบ.ตร.ลงภาค 8 ย้ำปราบปรามอาชญากรรมเมืองท่องเที่ยว

โพสเมื่อ : Thursday, March 22nd, 2018 : 5.31 pm

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำทุก สภ.จะต้องยึดหลักบริการประชาชน ขณะที่การปราบปรามอาชญากรรมดำเนินการเข้มข้นโดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 22 มี.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.แห่งชาติ ลงพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจระดับหัวหน้าสถานี และรองหัวหน้าสถานี รวมทั้งนายตำรวจที่มีการแต่งตั้งและโยกย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ โดยมี พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้บังคับการตำรวจภูธรในพื้นที่ 8 หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับ

พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งและโยกย้ายใหม่ทุกนายเพื่อนำไปปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ตำรวจทุกสถานีจะต้องให้ให้ความสำคัญในเรื่องของการบริการประชาชน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการพัฒนาสายตรวจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสายตรวจถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนมากที่สุด เพราะฉะนั้นจะต้องทำงานอยู่ในกฎระเบียบที่กำหนดรวมไปถึงเรื่องของการแต่งกายที่เหมาะสมและถูกระเบียบ ต่อไปจะมีการประกวดสายตรวจดีเด่นระดับจังหวัดระดับภาคด้วยเพื่อให้เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน

นอกจากนั้นสิ่งที่จะต้องปรับปรุงให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา คือ งานวิทยุ หัวหน้าสถานีก็จะต้องพกวิทยุติดตัวตลอดเวลา และสามารถสั่งการได้ตลอดเวลา ส่วนการระดมกวาดล้างอาชญากรรมจะต้องทำต่อเนื่อง ในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ทั้งอาวุธปืน ยาเสพติด นักเรียนรวมกลุ่มวิ่งรถจักรยานยนต์ หนีนอกระบบ และคดีค้างเก่า จะต้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และสิ่งที่ทุกสถานีจะต้องดำเนินการและรายงานผู้บังคับบัญชาทราบทุกครั้ง คือ คดีอาชญากรรมพิเศษ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ บางกรั้ง มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจับกุม ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรายงานทุกครั้ง

โดยเฉพาะพื้นที่ภาค 8 เป็นเมืองท่องเที่ยว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยอื่นๆในการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น กรณีนักท่องเที่ยวแทงกันเสียชีวิต ที่ เกาะสมุย ถ้าไม่มีการประสานความร่วมมือกันคนร้ายหนีออกนอกประเทศอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญจะต้องรายงานให้ทราบทุกครั้งเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการทำงาน และจะต้องทำงานเป็นทีมจึงจะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพ

พล.ต.ท.เฉลิมกียรติ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในการทำงานของข้าราชการตำรวจสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง คือเรื่องของยุทธวิธีในการตรวจค้น การเข้าจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องมีการอบรมให้ความรู้ การนำสามงามมาใช้กรณีการเข้าระงับเหตุคนอาละวาด และกรณีอื่นได้ ซึ่งที่สถานีตำรวจจะต้องนำมาใช้และฝึกยุทธวิธีให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเพื่อลดความสูญเสีย

ส่วนกรณีการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภธณภาค 8 พล.ต.ท.วรเกียรติ กล่าวว่า พื้นที่ ภาค 8 เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี เพราะฉะนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเน้นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว แต่จะต้องไม่ลืมในเรื่องของการเฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายที่แฝงตัวเข้ามาก่อคดีในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกับทางตำรวจสากล ตม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังอยู่แล้ว สวนเรื่องยาเสพติดก็เช่นกัน เป็นเรื่องที่จะต้องปราบปรามให้สิ้นซาก โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงต่างๆจะต้องไม่มีเด็ดขาด