รวบได้แล้ว ! หนุ่มภูเก็ตงัดร้านลักโทรศัพท์ 60 เครื่อง ขณะที่พี่เขยตัวดียังหลบหนี

โพสเมื่อ : Wednesday, April 18th, 2018 : 4.04 pm

รวบได้แล้ว ! หนุ่มภูเก็ต ร่วมกับพี่เขย ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือจาก ร้าน NO.1 ที่ภูเก็ต จำนวน 60 เครื่อง ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ตามรวบได้ภายในบ้านพัก ยึดของกลางได้จำนวนหนึ่ง ขณะที่พี่เขยยังหลบหนี

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ห้องสืบสวน ชั้น 3 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ปองภพ ประสบพิชัย รองผกก.จร.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ปฏิพัทธ์ ถาวรประพัฒน์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันสอบปาก นายโชคอนันต์ ชัยสงคราม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/42 ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือภายในร้านโทรศัพท์มือถือ ชื่อ NO.1 เลขที่ 68/297 ซอยเคหะรัษฎา ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จับกุมได้พร้อม พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือทั้งเครื่องใหม่และเครื่องเก่า ประมาณ 31 เครื่อง บัตรเติมอีก 12 ใบ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ บ้านเลขที่ 2/42 ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายจันทร์คำ มิตรสามารถ เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือ “นัมเบอร์วัน” ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ไปประมาณ 60 -70 เครื่อง ทั้งเป็นเครื่องใหม่และเครื่องที่ลูกค้านำมาจำนำไว้ และ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายได้เข้ามาทางฝ้าหลังคา ก่อนเข้ามาถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปแต่ยังมีวงจรปิดอีกชุดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ พบว่า คนร้ายได้เข้ามาลักทรัพย์ในเวลาประมาณ 01.39 น.ของวันที่ 10 เม.ย.61 ซึ่งคนร้ายทั้งสองคนได้สวมหมวกไหมพรหมปกปิดใบหน้า สวมถุงมือ เมื่อลักทรัพย์เสร็จก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนอนุภาษภูเก็ตการ

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางคนร้ายหลบหนี จนกระทั่งล่าสุด ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า ผู้ต้องสงสัย นายโชคอนันต์ ชัยสงคราม โดยพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ (18 เม.ย.) ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังดังกล่าว และ พบตัว นายโชคอนันต์ อยู่ในบ้านพัก จึงได้ขอตรวจค้น และของกลางโทรศัพท์มือถือ 19 เครื่อง และ เอกสารสัญญาขายฝากของร้าน 3 ร้าน รวม 6 ใบ จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมตามยึดโทรศัพท์อีกส่วนหนึ่งมากได้

จากการสอบสวน นายโชคอนันต์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างทำงานในเรือประมง ก่อนเกิดเหตุมี นายเล่ง เพิ่มทอง ซึ่งเป็นพี่เขย และอยู่ระหว่างหลบหนี เป็นผู้ชักชวนให้ก่อเหตุ เนื่องจากนายเล่ง ต้องการเงินไปไถ่ถอนรถยนต์ที่เอาไปจำนำไว้ จึงชักชวนให้ก่อเหตุในครั้งนี้  ซึ่งนายโชคอนันต์ ระบุว่า เพิ่งทำเป็นครั้งแรก หลังจากได้โทรศัพท์มาก็นำมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อได้ส่วนแบ่งมาก็นำไปจำนำตามร้านรับจำนำโทรศัพท์ในพื้นที่ต่างๆ เมื่อได้เงินมาก็นำไปใช้จ่าย

สำหรับนายเล่ง ซึ่งร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะหลบหนีออกต่างจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนและติดตามจับกุมตัวแล้ว ส่วนกรณีร้านที่รับจำนำโทรศัพท์ ก็ได้มอบหมายให้ทางพนักงานสอบสอนเรียกตัวมาสอบ ถ้าร้านทราบอยู่แล้วว่าเป็นโทรศัพท์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีในข้อหารับซื้อของโจร ต่อไป

ขณะที่เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์ ที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักโทรศัพท์ กล่าวว่า ขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้