ภูเก็ตใช้ระบบตรวจจับผู้กระทำผิดจราจรอัตโนมัติจับจริง ปรับจริง

โพสเมื่อ : Thursday, February 16th, 2017 : 4.16 pm

 

จับจริง ปรับจริง จังหวัดภูเก็ตเปิดใช้แล้ว ระบบตรวจจับยานพาหนะทำผิดจราจรแบบอัตโนมัติ นำร่อง 5 จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

วันนี้(16 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์  รองประธานคณะทำงานแผนงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด (สอจร.) นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แขวงทางหลวงภูเก็ต ผู้แทนจาก 5 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดภูเก็ตร่วมแถลงข่าว ระบบตรวจจับยานพาหนะกระทำผิดฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติ (Red Light Camera)

 

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ถ้ามีโครงการตัวนี้ ซึ่งเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน เชื่อว่าจะสามารถทำให้ลดอุบัติเหตุไปได้ 50 %  แต่ภูเก็ตตั้งเป้าลดอุบัติเหตุให้ได้100 % ซึ่งระบบดังกล่าวจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุและการทำผิดกฎหมายไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งการตรวจจับนั้นระบบจะบันทึกอัตโนมัติ จับจริงปรับจริงอย่างแน่นอน

 

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ยังเป็นปัญหาหลักของจังหวัดภูเก็ต ที่นำมาสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นจำนวนมาก ที่นำมาสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นจำนวนมาก การฝ่าสัญญาณไฟจราจรที่ทางแยก เป็นสาเหตุหลักหนึ่งของอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดภูเก็ต ที่ทำให้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีภารกิจหลายด้านไม่เพียงพอในการจับกุมผู้กระทำผิด ภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุจังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการป้องกันอุบัติเหตุ ด้วยการติดตั้งระบบตรวจจับยานพาหนะกระทำผิดฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติ (Red Light Camera) โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ Safer Roads Foundation

การติดตั้ง Red Light Camera กำหนดติดตั้ง 5 จุด มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ได้แก่ สี่แยกถนนเทพกระษัตรี หรือแยกเขาล้าน พื้นที่เทศบาลตำบลศรีสุนทร แยกถนนเจ้าฟ้าตะวันตก-ถนนขวาง พื้นที่เทศบาลตำบลวิชิต แยกสี่กอ พื้นที่เทศบาลเมืองกะทู้ แยกกมลา พื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา และแยกโกมารภัจจ์ พื้นที่เทศบาลนครภูเก็ต ทั้ง 5 จุด เป็นแยกที่เกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรจำนวนมาก ซึ่งจากการรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ให้ข้อมูลว่า ในปี 2558-2559 แยกเข้าล้าน เกิดอุบัติเหตุ 43 ครั้ง บาดเจ็บ 23 คน เสียชีวิต 2 คน แยกสี่กอ เกิดอุบัติเหตุ 28 ครั้ง บาดเจ็บ 33 คน เสียชีวิต 1 คน แยกเจ้าฟ้าถนนขวาง เกิดอุบัติเหตุ 51 ครั้ง บาดเจ็บ 46 คน เป็นต้น

 

โครงการ Red Light Camera มีเงื่อนไขสำคัญคือ หลังจากได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิ Safer Roads Foundation ในการติดตั้งระบบแล้ว จะส่งมอบให้แก่ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ หลังหมดประกันระบบ 2 ปี ท้องถิ่นต้องตั้งงบประมาณเพื่อบำรุงรักษา และซ่อมแซมระบบ เพื่อให้ระบบสามารถใช้งานได้ในปีที่ 3 เป็นต้นไป ทั้งนี้ระบบดังกล่าว สามารถตรวจจับการฝ่าสัญญาณไฟจราจร โดยใช้ระบบตรวจสอบสีสัญญาณไฟ ตรวจจับการขับขี่ด้วยความเร็ว เกินกว่ากฎหมายกำหนด คือในเขตเทศบาล มากกว่า 80 กม./ชม. และนอกเขตเทศบาล 90 กม./ชม. และสามารถตรวจจับการไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งวันนี้จะเป็นวันแรกในการเริ่มใช้ระบบตรวจจับยานพาหนะฯ ทั้ง 5 จุด ซึ่งทางผู้ว่าฯ ได้ตั้งเป้าไว้ว่าเราจะต้องลดคนตายจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ต่ำกว่า 50 คนต่อปี

 

ด้านนายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองประธาน สอจร.กล่าวถึงการให้การสนับสนุนของมูลนิธิ Safer Roads ซึ่งมีหลายโครงการตั้งแต่เรื่องของการทำวงเวียนบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและการตาย จากปีหนึ่งๆ มีคนตายประมาณ 5-9 ราย ปัจจุบันไม่มีเลย ,นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯ ได้ช่วยแก้ไขจุดเสี่ยง จำนวน 15 จุด ในปีที่ผ่านมา สามารถลดการบาดเจ็บลงไป 107 ราย ลดคนตายไปประมาณ 7 คน ,ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์  จำนวน 39 เครื่อง อุปกรณ์ตรวจจับความเร็ว และเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก และที่สนับสนุนอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้ง คือป้ายทางข้าม ชนิดที่มองเห็นชัดเจนมากเป็นพิเศษ ทำให้คนข้ามถนนปลอดภัยมากขึ้น ทั้งหมด 97 จุดทั่วจังหวัดภูเก็ต งบประมาณอีกกว่า 3 ล้านบาท

สำหรับโครงการ Red Light Camera ติดตั้ง 5 จุดใช้งบประมาณ 16 ล้านเศษ ซึ่งมูลนิธิฯ มีความเป็นห่วงคนไทยค เพราะสถิติการตายของคนไทย ขณะนี้ ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ปัญหาอุบัติเหตุเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนไทย เพราะฉะนั้นคงต้อง อาศัยทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกภาคส่วน ที่ต้องยกปัญหานี้ขึ้นมา เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทย สองวันสำหรับภูเก็ตมีคนเสียชีวิต 1 ราย แต่สำหรับประเทศไทย ทุกๆ 40 นาทีมีคนตาย 1 คน ทุก 2 หรือ 3 วินาที มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 1 ครั้ง เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับสังคมไทย

 

ขณะที่นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวสนับสนุนโครงการ Red Light Camera ซึ่งเป็นโครงการที่ดี ในการช่วยลดการสูญเสียจากการฝ่าฝืนกฎจราจร ซึ่งการสูญเสียตรงนี้มีมูลค่าสูงมาก เพราะฉะนั้นในส่วนของใบสั่งอัตโนมัติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากว่าขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางบกกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังบูรณาการกันที่จะใช้มาตรา 44 ในการบังคับใช้กฎหมายในส่วนของการฝ่าฝืนกฎจราจรให้มีผลไปถึงการชำระภาษีรถ ซึ่งปัจจุบันยังมีช่องว่างของกฎหมายอยู่ แต่ในอนาคตอันใกล้คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่จะใช้ และเรื่องเทคโนโลยีในการที่จะเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกรมการขนส่งทางบกก็จะแล้วเสร็จแล้ว ก็จะเป็นผลให้ใบสั่งทุกฉบับมีผลต่อการใช้งานของรถ เพราะฉะนั้นจึงอยากขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อลดการสูญเสีย ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจของชาวภูเก็ต

 

ทางด้าน ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การติดตั้งระบบดังกล่าวจะเป็นประโยชน์มากในแง่เชิงป้องกันที่จะทำให้ลดพฤติกรรมเสี่ยงลง และในแง่ของเชิงลดการสูญเสีย ซึ่งจะมีการตรวจจับทั้งเรื่องการฝ่าฝืนสัญญาณ และตรวจจับการฝ่าฝืนเรื่องความปลอดภัย คือไม่สวมหมวกนิรภัย มั่นใจว่าเป็นภาพรวมด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่ดีขึ้นของจังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน

 

นายสมบูรณ์ อัยรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวในนามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งพร้อมให้การสนับสนุนโครงการ Red Light Camera  และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณในการที่จะขยายโครงการนี้ครอบคลุมหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต ในอนาคต