พ่อเมืองภูเก็ต ส่งตัวแทนโร่แจ้งความคนใช้เฟซบุ๊คแอบอ้างขอยืมเงิน

พ่อเมืองภูเก็ต ส่งปลัด แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟชบุ๊คแอบอ้าง หลังเจอดีใช้เฟซบุ๊คใส่รูปผู้ว่าฯ ขอยืมเงินนายกองค์การส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ระบุโอนเป็นค่าเครื่องบินให้เพื่อนลูกสาว

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.60 เวลา กลางคืนในโลกโซเซียลทั้ง FacebooK และMessenger มีบุคคลซึ่งใช้นาม ว่า Nopparat Nonthong แอบอ้างใช้รูปภาพของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นรูปภาพโปรไฟล์ และ มีการสนทนาทางสื่อโซเซียลดังกล่าวกับบุคคลอื่นไปในลักษณะแสวงหาผลประโยชน์จากคู่สนทนาโดย ทำให้คู่สนทนา หลงเชื่อว่าบุคคลใช้ที่นามNopprat Nonthong เป็น นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าว น่าจะผู้ว่าราชการจังหวัด เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ ข้อเท็จจริงปรากฎตามโลกเซียล โดยมีการขอเป็นเพื่อนทั้งสื่อมวลชนและผู้บริหารท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 พ.ค.) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/134 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จึงมอบหมายให้ นายสุธี คีรีเดช เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ซอยเทศา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนข้าพเจ้า ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต เป็นผู้รับเรื่อง และมี พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต เดินทางมาดูคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

นายสุธี คีรีเดช เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ซอยเทศา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้รับมอบอำนาจ เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้ โดยนายสุธี กล่าวว่า วันนี้ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้แอบอ้างดังกล่าวในข้อหาความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ ยอมความตามกฎหมายมอบคดีให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนนำชี้ให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจเข้าจับกุมเพื่อดำเนินคดีคามกฎหมาย ให้ถ้อยคำชี้แจ้งข้อเท็จจริง รายละเอียดต่างๆ ยื่นเรื่อง ตรวจสอบ คัดถ่าย รับส่งเอกสาร หรือพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนให้มีอำนาจดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวกับการร้องทุกข์แทนผู้ว่าฯจนเสร็จการ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวจนถึงที่สุด

นายสุธี กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นผู้ใช้เฟซดังกล่าว มีการแอบส่งข้อความไปหานายกท้องถิ่นในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร รายหนึ่งโดยมีการขอยืมเงิน จำนวน 25,000 บาท โดยแจ้งว่าขอยืมเงินเป็นค่าตั๋วเครื่องบินให้กับเพื่อนของลูกสาว มีการส่งเลขบัญชีธนาคาร และเบอร์โทรศัพท์มาให้พร้อม แต่นายกคนดังกล่าวยังไม่ได้โอนให้ และมีการสอบถามมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า ต้องการใช้เงินจริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่ต้องให้โอนเงินแต่อย่างใด จึงยังไม่มีการโอนเงินเกิดขึ้น

นายสุธี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรายดังกล่าวแล้ว พบว่าผู้ที่ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวยังแอบด้างไปขอเงินไปยังหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตอีกหลายราย