พบซากลูกพะยูนถูกคลื่นซัดเกยตื้นตายอนาถ ที่ภูเก็ต ยังหาสาเหตุการตายไม่ได้

โพสเมื่อ : Friday, January 26th, 2018 : 6.43 pm

พบซากลูกพะยูน อายุแค่ 1- 2 ปี ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่หาดสมเกียรติ จ.ภูเก็ต อยู่ในสภาพเน่าเปื่อย เจ้าหน้าที่ยังระบุสาเหตุการตายไม่ได้ ต้องรอผ่าพิสูจน์

เมื่อเวลา 12:00 น. วันนี้ (26 ม.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากพะยูน ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น ที่หาดสมเกียรติ บ้านแหลมหงา ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.หญิง วิภาวรรณ วัธนเงินทนง รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.เวชศักดิ์ จุลอดุง รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต หัวหน้าป้อมตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎา ร.ต.อ.สุรศักดิ์ พิพิธกุล รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชายหาดดังกล่าว เห็นที่แนวโขดหินริมชายหาด  พบซากพะยูนไม่ทราบเพศ ยาวประมาณ 1.20 เมตร สภาพเน่าเปื่อย ผิวหนังถลอก มีไส้ทะลักออกมา ที่บริเวณส่วนหัวมีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมฟัน คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมได้ถ่ายภาพไว้  เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์สงวนฯ ก่อนมอบซากพะยูนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งไปยังกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

จากการสอบถาม นางสาวจารุวรรณ ช่วยเส้ง อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย จากจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นคนพบซากพะยูน ดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางมาท่องเที่ยว และ พักผ่อนที่ชายหาดดังกล่าว ขณะ ที่พี่ชายออกไปถ่ายภาพ เล่นที่บนชายหาดและโขดหิน ก็เห็นซากพะยูน จากนั้นตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตให้มาตรวจสอบในที่สุด

ขณะที่นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่งทะเลอันดามัน(ภูเก็ต) กล่าวว่า ในส่วนของพะยูนที่พบนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ซากก่อน ว่า สภาพเนื้อเยื่อเป็นอย่างไร ปกติหรือไม่ จึงจะสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้

เบื้องต้นซากพะยูนดังกล่าว เป็นลูกพะยูน อายุประมาณ 1-2 ปี ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ ว่า ผลัดหลงจากฝูง เพราะพะยูนวัยนี้ยังต้องอยู่กับแม่ และ เมื่อปีที่ผ่านมาเคยพบพะยูนมาหากินอยู่บริเวณแหล่งหญ้าทะเลใกล้กับศูนย์วิจัยฯ นอกเหนือจากที่เคยพบบริเวณแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่ป่าคลอก อ.ถลาง คาดว่าน่าจะเป็นพะยูนจากฝูงเดียวกัน