ผู้ว่าฯเอาจริง! ไล่ต้อนโรงแรมเถื่อนเข้าระบบ ให้เวลา 2 เดือน ฝ่าฝืนสั่งปิดทันที 

โพสเมื่อ : Wednesday, November 30th, 2016 : 2.15 am

ผู้ว่าฯประกาศกร้าว ให้โรงแรมที่เปิดให้บริการเถื่อน กว่า 1,300 แห่ง เข้าสู่ระบบทั้งหมดภายใน 2 ปีนี้ หลังกฎหมายเปิดกว้างให้จดทะเบียนเป็นโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายได้ ให้เวลาแสดงตัวเข้าสู่ระบบ 2 เดือน 1 ธ.ค – ม.ค.ปีหน้า เลยกำหนดสั่งปิดทันที ไม่สนใหญ่มาจากไหนก็ต้องทำตามกฎหมาย 1480446842378.jpg

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าว แถลงข่าวการออกประกาศนำอาคารประเภทอื่นไปใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม

พร้อมด้วย นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายกอำเภอกะทู้ ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับนโยบายจากส่วนกลางให้เข้ามาดำเนินการเรื่องการใช้อาคารประเภทอื่น เช่น อาคารพาณิชย์ เกสเฮ้าส์ อพาร์เมนท์ คอนโดมิเนียม ฯลฯ มาเปิดให้บริการรายวันเหมือนโรงแรม ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายและภาครัฐอย่างมหาศาล เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีผู้ที่นำอาคารประเภทอื่นๆมาเปิดขายรายวันเหมือนโรงแรมเป็นจำนวนมาก

จากการสำรวจพบว่า โรงแรมในภูเก็ตที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้และมีการจดทะเบียนโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายมี 424 แห่ง จำนวนห้องพัก 45,740 ห้อง แบ่งเป็นอำเภอเมืองภูเก็ต 204 แห่ง ห้องพักทั้งสิ้น 19,395 ห้อง อำเภอกะทู้ 148 แห่ง ห้องพัก 18,839 ห้อง และอำเภอถลาง 72 แห่ง ห้องพัก 7,500 ห้อง และโรงแรมที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการโรงแรมที่ทั้งสิ้น 1,366 แห่ง ส่วนจำนวนห้องพักนั้นไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่คาดว่ามีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของห้องพักที่จดทะเบียนถูกต้อง โดยขณะนี้ทางจังหวัดมีรายชื่อของโรงแรมดังกล่าวทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายชื่อได้ในขณะนี้

ดังนี้เพื่อให้โรงแรมที่ไม่รับอนุญาตจดทะเบียนโรงแรมทั้ง 1,366 แห่งนี้ ได้เข้าสู่ระบบทั้งหมด ทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกประกาศจังหวัดภูเก็ต เรื่อง การนำอาคารประเภทอื่นไปใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม เพื่อให้โรงแรมที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตมายื่นขออนุญาตได้ เนื่องจากขณะนี้กฎหมายให้เปิดช่องให้ดำเนินการได้แล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2559 เป็นต้นมา ทำให้อาคารประเภทอื่นๆที่เปิดให้บริการรายวันแบบโรงแรมสามารถมายื่นขอจดทะเบียนเป็นโรงแรมได้ ทำให้โรงแรมในกลุ่มนี้สามารถที่จะเดินเข้าสู่ระบบได้

โดยทางจังหวัดภูเก็ตจะเปิดโอกาสให้โรงแรมที่ไม่ขึ้นทะเบียนทั้ง 1,366 แห่ง มายื่นคำขอใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารตามความในกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 ยื่นคำขอตามแบบ ร.ร.1 พร้อมเอกสารประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เอกสารการอนุญาตก่อสร้างอาคารโรงแรม เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม IEE หรือ EIA เป็นต้น ที่ว่าการอำเภอทั้ง 3 แห่ง ภายในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2559 ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2560 เพื่อให้โรงแรมดังกล่าวได้แสดงตนว่าพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ยังมีโรงแรมที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดภูเก็ต ทางจังหวัดจะดำเนินการสั่งปิดโรงแรมทันที

สำหรับโรงแรมที่ได้ยื่นเรื่องของเปลี่ยนการใช้อาคารมาเป็นโรงแรมนั้น ทางจังหวัดภูเก็ต ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองการออกใบอนุญาตโรงแรมทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด เพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น หากพิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขอาคารมาใช้ประกอบการโรงแรมได้ ให้อำเภอรวบรวมคำขอ เอกสารประกอบ และความเห็นของคณะทำงาน เสนอมายังจังหวัดภายใน 30 วัน เพื่อให้คณะทำงานฯในระดับจังหวัดพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า โรงแรมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องนั้น จะแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสีขาว เป็นโรงแรมที่ประสงค์จะจดทะเบียนให้ถูกต้องและสภาพอาคารอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำเป็นโรงแรมได้ กลุ่มสีเทา เป็นกลุ่มที่จะต้องมีการปรับปรุงข้อบกพรองต่างๆ ให้ได้ตามมาตรฐานของโรงแรมทั่วไป เช่น อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ และกลุ่มสีดำ คือ กลุ่มที่ไม่สามารถอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นโรงแรมได้ เช่น บุกรุกที่สาธารณะ ชายหาด ไม่ขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มนี้หากมายื่นขอทางจังหวัดก็จะเข้าไปตรวจสอบและคาดว่าจะไม่สามารถที่จะออกใบอนุญาตได้ จะต้องนำอาคารดังกล่าวกลับสู่ภาพเดิมตามที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างในครั้งแรก

“จากข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเก็บนั้น โรงแรมกลุ่มสีดำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องการก่อสร้างอาคารหรือการสร้างโดยการบุกรุกที่สาธารณะนั้น มีทั้งโรงแรมขนาดเล็กและโรงแรมขนาดใหญ่ของบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ตอยู่ด้วย ซึ่งจุดนี้ทางจังหวัดไม่ได้คำนึงว่าจะเป็นโรงแรมของใคร จะคนใหญ่หรือคนโตก็ต้องเข้าสู่ระบบทั้งหมด มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิที่ดินก็ต้องไปดำเนินการให้ถูกต้อง บุกรุกหาดก็ต้องรื้อถอนออกไป เป็นต้น ยกเว้นกรณีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ที่จะต้องให้เสร็จสิ้นในขั้นตอนของศาลก่อนทางจังหวัดจึงจะเข้าไปดำเนินการ” นายโชคชัย กล่าวและว่า

ส่วนโรงแรมที่จะขออนุญาตทำการก่อสร้างใหม่นั้น ตนได้มอบนโยบายให้กับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาตก่อสร้าง ว่าจะต้องให้ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ก่อน ที่จะอนุญาตให้ก่อสร้างได้ หากทางท้องถิ่นฝ่าฝืนทางจังหวัดจะใช้อำนาจในการบริการราชการแผ่นดินเข้าดำเนินการกับทางองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้เพื่อให้โรงแรมที่จะเกิดขึ้นใหม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในตอนท้ายว่า ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะทำงาน โรงแรมที่นำอาคารประเภทอื่นมาเปิดขายรายวันนั้น ยังสามารถดำเนินการเปิดให้บริการได้ แต่เมื่อการตรวจสอบสิ้นสุดลงแล้วจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ถ้าจะไม่สามารถอนุญาตเป็นโรงแรมได้ ก็ต้องปิดกิจการโรงแรม ไปประกอบการตามที่ได้ยื่นขออนุญาตไว้เดิม