ผู้ว่าภูเก็ต เตรียมฟันผู้ประกอบการไม่สนใจแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยว

โพสเมื่อ : Monday, January 15th, 2018 : 1.44 pm

ผู้ว่าภูเก็ตจี้หน่วยเกี่ยวข้อง สั่งล้อมคอกป้องกันอุบัติเหตุทางเรือ  สั่งจัดการท่าเรือให้เข้าระบบ เตรียมฟันผู้ประกอบการไม่แจ้งจำนวนนักท่องเที่ยว ระบุสร้างโปรแกรมแต่ยังไม่สนใจ  เตรียมลงเกาะพีพี หารือผู้ว่ากระบี่กำหนดมาตรการป้องกัน

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ ( 15 ม.ค.) ที่ห้องรับรอง จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกัน ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางทะเลซ้ำ หลังเกิดเหตุ เรือสปีดโบ๊ท คิงโพไซดอน 959 บรรทุกนักท่องเที่ยวจีน ไกด์ คนขับเรือ และ เด็กเรือ จำนวน 31 คน ระเบิดจนไฟลุกไหม้กลางทะเล

 

โดยเหตุเกิดเมื่อวานนี้ ( 14 ม.ค.) หน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี จ.กระบี่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ไกด์ เด็กเรือ คนขับเรือ ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 16 ราย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล วชิระภูเก็ต 1 ราย โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต 1 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 8 ราย โรงพยาบาลกระบี่ 1 ราย และโรงพยาบาลกระบี่นครินทร์อินเตอร์เนชั่นแนล 2 ราย ส่วนที่เหลือกลับบ้านได้ทั้งหมด

นายนรภัทร กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อสรุปปัญหาและหามาตรการในการป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้เป็นระบบมากขึ้น เนื่องจากกรณีเมื่อวาน (14 ม.ค.) พบว่ามีปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการประสานงานในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รวมทั้งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกับเรื่อง การประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการด้วยกัน ซึ่งเป็นหาที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะมาตรการในการแก้ไขปัญหากรณีเรือท่องเที่ยวที่ออกจากท่าเรือเอกชน

 

ซึ่งจากการประชุมทราบว่าเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่ออกจากท่าเรือไทยมอร์นิ่งซัน ซึ่งเป็นท่าเรือฝากกับท่าเรือเอกชนรายอื่น เนื่องจากเป็นท่าเรือขนาดเล็กและจากการตรวจสอบพบว่ากำลังอยู่ระหว่างการขออนุญาตจัดทั้งท่าเรือ ท่าเรือแห่งนี้จึงเป็นท่าเรือฝาก ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตอนปล่อยเรือได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการเพิ่มมาตรการในการดำเนินการได้มอบหมายให้เจ้าท่าไปดำเนินการแล้ว รวมทั้งสำรวจท่าเรือเอกชนทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อกำหนดมาตรการในการจัดการ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดภูเก็ตไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะเรือท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือภูเก็ต

และสิ่งที่จังหวัดทำเพื่อกำหนดเป็นมาตรการในการป้องกันเหตุก่อนหน้านี้ ซึ่งได้มอบหมายให้ทางดีป้า ดำเนินการคือการสร้างโปรแกรมสำหรับแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปกับทางเรือท่องเที่ยวของแต่ละบริษัท ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ทั้งในส่วนของภาคเอกชนและหน่วยงานราชการจะทราบเหมือนกัน และสามารถที่จะส่งรายชื่อจากต้นทางไปให้ปลายทางได้ทันที ว่านักท่องเที่ยวเดินทางไปกี่คน มีใครบ้าง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำให้ทราบชื่อและจำนวนผู้โดยสารทันที แต่กรณีเมื่อว่าพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น รายชื่อผู้บาดเจ็บ รายชื่อนักท่องเที่ยวไม่ทรงกัน หรือแม้แต่จำนวน

 

นายนรภัทร กล่าวว่า กรณีการสร้างโปรแกรมแจ้งชื่อ ทำมาระยะหนึ่งแล้ว บางบริษัทก็โหลดไปใช้แต่บางบริษัทยังไม่สนใจที่จะเข้าร่วม แต่กรณีของบริษัทที่ส่งนักท่องเที่ยวที่เป็นท่าเรือของรัฐนั้นได้มีการบังคับให้กรอกชื่อเอง ถ้ารายไหนไม่แจ้งรายชื่อเข้าสู้ระบบ ซึ่งจะทำให้ทราบจำนวนและชื่อนักท่องเที่ยวทันทีกรณีเกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่กรณีที่ส่งนักท่องเที่ยวไปขึ้นลงเรือที่ท่าเรือเอกชนพบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ดำเนินการ โดยวันนี้จะมีการประชุมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการอีกครั้ง หากบริษัทไหนยังไม่ให้ความร่วมมือก็จะต้องมีมาตรการในการจัดการต่อไป

ส่วนสาเหตุที่หลายๆบริษัทยังไม่สนใจเข้าร่วมโปรแกรมการแจ้งชื่อนักท่องเที่ยว คิดว่ามีมาหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องของความไม่พร้อม ถ้าเรื่องของความไม่พร้อมก็อาจจะต้องให้เวลาบาง แต่ถ้าไม่แจ้งเพราะต้องการเลี่ยงภาษีก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก และ เร็วๆนี้ตนจะลงไปหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันในการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางทะเล

ส่วนกรณีการตรวจสภาพเรือนั้น เดิมจะมีการตรวจสภาพเรือปีละครั้ง แต่จังหวัดภูเก็ตไม่เหมือนกันจังหวัดอื่น ความถี่ในการใช้เรือมาก แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆหลายพันคน การตรวจเรือจึงจะต้องเพิ่มความถี่มากขึ้น

 

ซึ่งตนขอให้เจ้าท่ากำหนดระยะเวลาในการตรวจเรือจากปีละครั้งมาเป็น 6 เดือนครั้ง ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ต่างและเรื่องของความแข็งแรงของเรือ เนื่องจาก กรณีที่เกิดอุบัติเหตุล่าสุดในเบื้องต้นมีการระบุว่าก่อนเกิดเหตุมีน้ำมันรั่วที่เครื่องยนต์หลังจากนั้นก็มีไฟสปาร์ค ขึ้นจนเป็นเหตุให้เรือระเบิดและไฟไหม้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงคงจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังมีการประชุมแล้วเสร็จผุ้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมคระได้เดินทางลงไปยัง ท่าเรือไทยมอร์นิ่งซัน เพื่อตรวจสอบการบริหารจัดการการส่งนักท่องเที่ยวลงเรือ ซึ่งพบว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบเรือเข้าออกที่จุดดังกล่าวเดี่ยว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการทำระบบรายชื่อนักท่องเที่ยวแต่ไม่มีการแจ้งเข้าระบบตามที่กำหนด แต่อย่างใด โดยผู้ว่าได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถูกต้องและจะต้องเก็บรายชื่อนักท่องเที่ยวทั้งหมด ไว้ในระบบให้ถูกต้องก่อนที่จะปล่อยเรือออกแต่ละลำ

 

ด้านนายเจริญ แก้วยอดหล้า ที่ปรึกษาไทยมอนิ่งซั่น ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของท่าเรือและเจ้าของเรือ กล่าวว่าเรือลำนี้ทำประกันภัยแบบ พ.ร.บ.ไว้ ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตทางบริษัทบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ 1 แสนบาท ส่วนกรณีบาดเจ็บรายละ 50,000 บาท ส่วนการดุแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีอุบัติเหตุเมื่อวาน พร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ และให้การช่วยเหลือดูแลมาตั้งแต่เมื่อวาน และ เราพร้อมอย่างที่ที่จะดูแลดังกล่าวท่องเที่ยวให้ได้รับความพึงพอใจมากที่สุด