ผู้ประกอบการร้านอาหารแผงค้าโลมาเดือดร้อนถูกเลิกสัญญายื่นหนังสือผู้ว่าช่วย

ผู้ประกอบการร้านอาหารแผงค้าโลมา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงพ่อเมือง ให้เทศบาลเมืองป่าตองทบทวนการยกเลิกสัญญาเช่า เหตุเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพ จังหวัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบแก้ปัญหา ด้านนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ยัน กลุ่มผู้ประกอบการไม่เคารพกฎระเบียบ พร้อมนำอาคารไปทำเป็นอาคารเอนกประสงค์

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวสุริยา สิ้นโศรก  ผู้ประกอบการร้านค้า-พนักงานลูกจ้าง บริเวณอาคารแผงโลมา หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประมาณ 30 ราย ได้เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม ต่อนายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทาง นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต กรณีถูกเทศบาลเมืองป่าตองยกเลิกสัญญาเช่าอาคารดังกล่าว โดยไม่หาสถานที่ใหม่ให้ ซึ่งการยกเลิกสัญญาทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน ทำให้ไม่มีอาชีพในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว และลูกจ้างอีกนับร้อยชีวิตไม่มีงานทำ จึงเดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมีเพื่อให้เทศบาลเมืองป่าตองทบทวนการยกเลิกสัญญาดังกล่าว

นางสาวสุริยา สิ้นโศรก ตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า เดิมเมื่อปี พ.ศ.2539 ขณะยังเป็นเทศบาลตำบลป่าตอง ผู้บริหารสมัยนั้นได้ให้เงินอุดหนุน จำนวน 48,200,000 บาท ในการก่อสร้างแผงลอยจำหน่ายอาหารพร้อมก่อสร้างเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์แนวชายหาดป่าตอง ในระหว่างที่มีการก่อสร้างได้ย้ายผู้ประกอบการจำนวน 38 ราย ออกจากพื้นและทางเทศบาลฯ ได้จัดสรรพื้นที่ของเอกชนในการให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าในระหว่างที่มีการก่อสร้างอาคารฯ  เมื่อมีการก่อสร้างอาคารดังกล่าวแล้วเสร็จผู้ประกอบการขายอาหารและเครื่องดื่มได้ย้ายกลับเข้ามาเช่าพื้นที่อาคารแผงลอยดังกล่าวจำหน่ายอาหารจนถึงปัจจุบัน และมีการปฎิบัติตามกฎระเบียบของเทศบาลอย่างเคร่งครัดมากว่า 20 ปี

นางสาวสุริยา กล่าวอีกว่า ต่อมาประมาณช่วงปี 2556 ทางเทศบาลได้ทยอยบอกเลิกสัญญาเช่า พร้อมส่งหนังสือขอคืนพื้นที่และส่งมอบพื้นที่ให้กลับคืนเทศบาลเมืองป่าตอง เพื่อดำเนินการปรับปรุงอาคารดังกล่าวเป็นห้องประชุมของเทศบาลฯ โดยไม่มีการทำประชาคมกับชาวบ้านในชุมชนและไม่แจ้งล่วงหน้าหรือจัดสรรพื้นที่จำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ให้ผู้ประกอบการที่ถูกยกเลิกสัญญาเช่า ทำให้ผู้ประกอบการที่ถูกเลิกสัญญาได้รับความเดือดร้อน ไม่มีอาชีพในการทำมาหากิน และแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะรายได้ที่มาเลี้ยงครอบครัวคือรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นเมื่อถูกยกเลิกสัญญา จะทำให้พนักงานกว่า 100 คน ได้รับผลกระทบด้วย

การเดินทางมาครั้งนี้ผู้ประกอบการ ได้ยื่นขอเสนอดังนี้  1.ให้เทศบาลเมืองป่าตอง พิจารณาต่อสัญญาเช่า โดยให้เช่าพื้นที่เดิมหรือให้เทศบาลเมืองป่าตองเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาคารที่เทศบาลจะดำเนินการปรับปรุงเป็นห้องประชุมเทศบาลฯ เพื่อจัดสรรพื้นที่ในอาคารดังกล่าวไว้รองรับผู้ประกอบการ กลับเข้ามาประกอบการเช่นเดิม หลังก่อสร้างอาคารเสร็จ 2.ระหว่างช่วงเวลาปรับปรุงอาคารให้เทศบาลฯ จัดหาสถานที่รองรับ เพื่อผู้ประกอบการได้ประกอบกิจการชั่วคราวระหว่างดำเนินการปรับปรุงอาคาร เพื่อผู้ประกอบการจะได้มีอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัว และอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพิจารณาเป็นการเร่งด่วนว่าการบอกเลิกสัญญาเช่าของสำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง เป็นธรรมกับผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณอาคารแผงโลมา หาดป่าตอง หรือไม่ และขอให้พิจารณาว่าการนำพื้นที่ดังกล่าวไปดำเนินการสร้างห้องประชุมสำหรับเทศบาลเมืองป่าตองได้กระทำโดยชอบด้วยระเบียบ กฎหมาย หรือไม่

อย่างไรก็ตามในการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการได้เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจำนวน 1 ชุด ซึ่งมีตัวแทนจาก 4 ฝ่ายเข้าร่วม ประกอบด้วย 1 ตัวแทนจากจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรม  ตัวแทนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ตัวแทนจากเทศบาลเมืองป่าตอง และตัวแทนจากอำเภอ ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมโดยด่วนที่สุด

ขณะที่นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า กลุ่มที่ไปยื่นหนังสือกับทางจังหวัดในวันนี้ คือ ผู้ประกอบการเช่าอาคารโลมา และมีปัญหาคือค้างค่าเช่าเทศบาลหลายเดือน ทางเทศบาลต้องทวงเงินค่าเช่าที่ค้างชำระ นอกจากนั้นยังทำผิดเงื่อนไขเนื่องจากมีการนำโต๊ะเก้าอี้ไปวางบริเวณชายหาด ซึ่งทางเทศบาลฯก็ได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการทั้งหมดไปขายสินค้าที่บริเวณอาคารโลมาที่เป็นพื้นที่ที่ทางเทศบาลจัดให้ แต่ผู้ประกอบการก็อ้าง ในอาคาร สกปรก-ไม่มีน้ำ-ห้องน้ำไม่ดี-การระบายน้ำไม่ดี ไฟฟ้าไม่มี ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเข้าไปปรับปรุงแก้ไข เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ แต่หลังจากดำเนินการแล้วผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนและนำเก้าอี้ ลงไปวางหน้าหาดที่ผ่านมาเรียกมาคุยอีกหลายครั้ง แต่ยังคงไม่ทำตามสัญญา

ทางเทศบาลฯจึงยกเลิกสัญญา และในการบอกเลิกสัญญาก็บอกเลิกตามระเบียบ แจ้งบอกเลิกสัญญาให้ผู้ประกอบการเช่าอาคารทราบล่วงหน้าเกิน 15 วัน สำหรับสัญญาเช่านั้นบางรายได้ถูกยกเลิกไปเมื่อเดือนมีนาคม บางรายเดือนตุลาคม สัญญาเช่ารายสุดท้ายจะถูกหมดสัญญาเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหลังจากที่บอกเลิกสัญญา ทางเทศบาลจะนำอาคารดังกล่าวมาพัฒนาเป็นอาคารเอนกประสงค์เพื่อให้ส่วนรวมได้ใช้ต่อไป โดยขณะนี้สภาได้อนุมัติงบประมาณผ่านสภาเพื่อดำเนินการก่อสร้างแล้ว จะมีการปรับปรุงอาคารให้ประชาชนมาใช้ตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะทุกวันนี้ตามสภาพความจริงที่ทางเทศบาลให้ผู้ประกอบการเช่าทำร้านอาหารนั้น เขาใช้เพียงเก็บสินค้าเท่านั้น แต่ยังคงนำโต๊ะเก้าอี้ลงไปขายชายหาดเหมือนเดิม เมื่ออาคารไม่เป็นประโยชน์ต่อการค้าขาย และผู้ประกอบการไม่เคารพกฎระเบียบ-กติกา ทางเทศบาลจึงต้องปรับปรุงอาคารเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้ใช้ร่วมกัน