ผู้บริหารโรงแรมดังที่ป่าตองควงทนาย แจ้งความดำเนินคดีโฆษก กอ.รมน.ภาค 4

โพสเมื่อ : Friday, April 27th, 2018 : 6.52 pm

ผู้บริหารโรงแรมดังป่าตองควงทนายแจ้งความโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หลังแถลงข่าวทำเสียหาย พร้อมระบุอีก 1 เดือนเตรียมถวายฎีกา หากคดีที่แจ้งความและร้องเรียนขอให้ย้ายกลุ่มทหารที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไม่คืบ

วันนี้ (27  เม.ย.) นายวิศิษฐ์ เอี่ยมวิโรจน์ฤทธิ์ ผู้บริหารโรงแรมป่าตองพารากอน พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัว และ  ทีมทนายความ  เข้าพบกับ ร.ต.ท.ธนาคาร อุชณรัศมี พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อแจ้งความ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพิ่ม หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหาร ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และแจ้งความอดีตพนักงาน ในข้อหาแจ้งความเท็จมาแล้ว

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัว นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าแจ้งความเพิ่มเติมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่มีการแพร่คลิปวีดีโอนายทหารกลุ่มหนึ่งเข้าไปยังโรงแรมของลูกความที่ป่าตอง หลังจากนั้นมีการออกมาให้ข่าวของแม่ทัพภาคที่ 4 และ โฆษก กอ.รมน. ซึ่งปรากฏ ว่า ข้อความบางอย่างที่มีการแถลงข่าวส่งผลกระทบและเข้าข่ายหมิ่นประมาทลูกความ ของตน วันนี้จึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า  ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางลูกความของตนได้แจ้งความดำเนินคดี ทั้งคดีแพ่งและอาญา กับเจ้าหน้าที่ทหาร 9 คน ที่เข้าไปยังโรงแรมตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด และ อดีตพนักงานที่ถูกให้ออกเนื่องจากขาดงาน และมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ว่า ลูกความของต้นเป็นผู้มีอิทธิพลและข่มขู่ให้ออกจากงานโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งต่อ มาทหารได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 และ คำสั่ง คสช. ที่ 13/2559 เข้าตรวจสอบ จนกระทั่งมีการเผยแพร่คลิปกรณีที่ทหารเข้าไปตรวจสอบ โดยได้แจ้งความไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยแจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และแจ้งความเท็จ

นายอนันต์ชัย  ยังได้กล่าวต่อไปว่า  หลังจากนี้ภายใน 1 เดือน หากการแจ้งความดำเนินคดี และการร้องเรียนให้ย้ายทหารทั้ง 9 นายออกจากพื้น ที่ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทางคดี หรือ ยังไม่มีการดำเนินการใดจากทางกองทัพภาค 4 หรือ ทางทหาร ก็จะมีการแจ้งความเพิ่มเติมกับผู้เกี่ยวข้องอีก พร้อมเตรียมยื่นถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมด้วย เพราะที่ผ่านมาหลังจากแจ้งความก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีมาแล้ว และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี และกองทัพบกจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน