ผู้การมั่นใจคดีวิสามัญทำเพื่อระงับเหตุ พร้อมปรับแผนป้องกันเหตุชิงทรัพย์ หลังเกิดถี่

ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต ยืนยันคดีวิสามัญคนร้ายมีหลักฐานชัดเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ เผยเตรียมยกระดับป้องกันคนร้ายก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ หลังเกิดถี่ จัดทำฐานข้อมูลแฟ้มอาชญากร เชื่อม CCTV ง่ายต่อการตรวจสอบ ขณะที่

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต เช่น ชิงทองตายวัย 77 ปี เหตุชิงทรัพย์ 2 แม่ลูกในพื้นที่ สภ.กะทู้ เหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวในพื้นที่ สภ.เชิงทะเล และอื่น ๆ อีกหลายคดี จนกระทั่งล่าสุด เกิดเหตุคนร้ายพยายามจะชิงทรัพย์ 2 ผัวเมีย ในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ขณะไปช่วยเหลือน้องสาวที่บ้านพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย เพื่อระงับเหตุ และ ถูกคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บ และเกิดเหตุการณ์วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ ( 16 ม.ค.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก. ภ.จว.ภูเก็ต มอบกระเช้าและเงิน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับ ด.ต.นิรุติ บุญรัตน์ อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ ป. และ ส.ต.ท.วรัชญ ใจเรือง อายุ 22 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองภูเก็ต สายตรวจรถจักรยานยนต์ประจำเขตพื้นที่ที่เกิดเหตุ กล่าวภายหลังมอบกระเช้าและเงิน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงบเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์จนเกิดเหตุชุลมุน ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บและใช้อาวุธปืนยิงโดนร่างของคนร้ายจำนวน 1 นัด เสียชีวิตคาที่ โดยมี พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมรองผู้กำกับ ร่วมต้อนรับ

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่รวมไปถึงพื้นที่อื่น ๆ ด้วย ซึ่งมูลเหตุของการเกิดคดีส่วนใหญ่คนที่ก่อเหตุมีพื้นฐานมาจากปัญหายาเสพติด และ ติดพนัน จึงหาทางออกในการหาเงินโดยการชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นตนได้สั่งการให้ยกระดับการป้องกันให้เข้มขึ้น

นอกจากเพิ่มจำนวนสายตรวจในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่แล้ว เรายังเพิ่มในเรื่องของมาตรการในการจัดการเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล ที่นำไปเชื่อมกับระบบ CCTV ตรวจจับใบหน้า  ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คิดว่าเร็วๆนี้ระบบจะสมบูรณ์ ถ้าระบบสมบูรณ์จะทำให้การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทำได้เร็วขึ้น และเป็นการป้องกันไม่ให้คนร้ายลงมือก่อเหตุได้ง่ายขึ้น

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงกรณีการวิสามัญคนร้ายที่พยายามชิงทรัพย์ เรื่องนี้ทางข้างบนให้ความสนใจและมีการสอบถามเข้ามา ซึ่งในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีญาติยังมีความข้องใจก็สามารถมาสอบถามกับทางตน หรือทาง ผกก.สภ.เมืองก็ได้ เพราะทางตำรวจต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว ในเบื้องต้นจากการพูดคุยกับพ่อของคนตายพบว่าไม่ติดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นเวรกรรม

และจากการตรวจสอบ ทางตำรวจไม่มีเจตนาฆ่า แต่เป็นการระงับเหตุ เพราะอันตรายกำลังจะมาถึงตัวถ้าไม่มีการระงับเหตุก็อาจจะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ซึ่งจุดนี้มีกล้องวงจรปิดชัดเจนแต่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะในการดำเนินการสอบสวนจะมีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีการดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิต และในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ